ตู้ เว่ยเฉียง รองผู้จัดการอาวุโส บริษัท Chery International กล่าวว่า การที่ Chery ขยายธุรกิจสู่สากลมีส่วนช่วยสนับสนุนให้แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวทีโลก โดย Chery เดินหน้าพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ ยกระดับการดำเนินงานให้มีความเป็นสากล ตลอดจนพัฒนานวัตกรรมทางเทคนิคและการผลิตในท้องถิ่น

นายตู้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในการประชุมสุดยอดธุรกิจจีน-อาหรับ ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองหยินฉวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ระหว่างวันที่ 5-6 กันยายนที่ผ่านมา

นายตู้ระบุว่า กลุ่มประเทศอาหรับเป็นตลาดต่างประเทศที่มีความสำคัญสำหรับ Chery และเป็นตัวเลือกแรกในบรรดาตลาดต่างประเทศทั้งหมด ทั้งนี้ คาดว่ากำลังการผลิตรถในตลาดอาหรับจะเพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านในปัจจุบัน จนทะลุระดับ 5 ล้านภายในปี 2567

ปัจจุบัน รถของ Chery จำหน่ายในหลายประเทศทั่วอาหรับ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน ซีเรีย เลบานอน บาห์เรน ฯลฯ

จนถึงขณะนี้ Chery ขายรถได้มากถึง 600,000 คัน นอกจากนั้นยังสร้างฐานการผลิต 4 แห่ง และจัดตั้งบริษัทร่วมทุน 3 แห่งในอาหรับและตะวันออกกลาง บริษัททำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยจุดแข็งด้านกำลังของเครื่องยนต์ ฟังก์ชันหลักๆ รูปลักษณ์อันสวยงาม และอื่นๆ

ความพยายามตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ส่งผลให้ Chery สามารถจำหน่ายรถในกว่า 80 ประเทศและดินแดน และมีฐานการผลิตในต่างประเทศมากถึง 10 แห่ง ทั้งยังครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีนที่มียอดส่งออกเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 16 ปี

นายตู้กล่าวว่า Chery ให้ความสำคัญกับการส่งออกเทคโนโลยีและการพัฒนาในท้องถิ่น พร้อมกับการขยายตลาดต่างประเทศ โดยรถที่ขายในต่างประเทศราว 65% ผลิตในต่างประเทศ ซึ่งช่วยสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นและช่วยให้ท้องถิ่นมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นด้วย

ขณะเดียวกัน Chery ยังใช้กลยุทธ์การพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการบูรณาการการวิจัยและพัฒนา การจัดซื้อ การผลิต และการทดสอบเข้าด้วยกัน โดยมีการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในตะวันออกกลาง ยุโรป บราซิล และภูมิภาคอื่นๆ

นายตู้กล่าวเสริมว่า โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ที่มีเป้าหมายในการเชื่อมโยงและสร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ได้สร้างโอกาสใหม่ๆ ในการเปิดกว้างด้านการพัฒนา พร้อมกับแสดงความหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันและเติบโตไปด้วยกัน เพื่อส่งเสริมแบรนด์ยานยนต์จีนให้เป็นแบรนด์ระดับโลก ด้วยการคว้าโอกาสมากมายที่เกิดขึ้นจากโครงการ BRI