ธุรกิจอุตสาหกรรม - โตชิบาของญี่ปุ่นแถลงว่าจะซื้อหุ้นของบริษัทพลังงานนิวเคลียร์สัญชาติอังกฤษ “นูเจเนอเรชัน” ในสัดส่วนที่ทำให้มีอำนาจควบคุมกิจการได้ ในเวลาที่โตชิบากำลังพยายามก่อตั้งธุรกิจด้านปรมาณูขึ้นมาใหม่ภายหลังญี่ปุ่นประสบวิกฤตนิวเคลียร์ฟูกูชิมะในปี 2011 

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านวิศวกรรมแห่งนี้ระบุว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับบรรดาเจ้าของนูเจเนอเรชัน ได้แก่ “จีดีเอฟ สุเอซ” ของฝรั่งเศส และ “อิเบร์โดรลา” ของสเปน เพื่อถือหุ้น 60% ของบริษัทที่มีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษแห่งนี้ โดยการทำข้อตกลงซื้อขายหุ้นครั้งนี้มีมูลค่าราว 102 ล้านปอนด์ (ราว 5.5 พันล้านบาท) แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งโตชิบาระบุโดยไม่ได้ชี้แจงรายละเอียด

ภายหลังปิดการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี โตชิบาจะครอบครองหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทอังกฤษแห่งนี้ ขณะที่ จีดีเอฟ สุเอซ จะเป็นเจ้าของหุ้น 40% อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้บริษัทฝรั่งเศสและบริษัทสเปนยังคงถือหุ้นของนูเจนฝั่งละ 50%

โตชิบา ร่วมกับ เวสติงเฮาส์ อิเล็กทริก ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน มีเจตนารมณ์ที่จะผลักดันการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (แรงดันน้ำ) 3 แห่งในอังกฤษ โดยร่วมมือกับ จีดีเอฟ สุเอซ ทั้งนี้ โตชิบาได้ซื้อกิจการเวสติงเฮาส์ ซึ่งมีฐานในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ในเวลาที่ทางบริษัทกำลังมองหาโอกาสในการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์นอกญี่ปุ่น ประเทศที่เผชิญกับภัยพิบัติบ่อยครั้งแห่งนี้

เมื่อปี 2012 ฮิตาชิ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งก็เคยออกมาแถลงว่าจะซื้อกิจการบริษัท “ฮอริซอน” ของอังกฤษเพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างแดน 

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่นปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2011 เมื่อเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะหลอมละลาย เนื่องจากถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่ม ซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในญี่ปุ่น ทำให้โลกต้องประสบอุบัติภัยนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุด นอกจากนี้ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นยังทำลายความหวังที่ญี่ปุ่นจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้วญี่ปุ่นและตุรกีสามารถบรรลุข้อตกลงที่รอคอยมาเนิ่นนาน เพื่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ในบริเวณชายฝั่งทะเลดำของตุรกี ซึ่งถือเป็นการทำสัญญาด้านพลังงานนิวเคลียร์ครั้งแรกของญี่ปุ่น นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ในปี 2011 เป็นต้นมา