Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

Saudi Aramco ดำเนินการตามยุทธศาสตร์สารเคมีระดับโลกของบริษัท โดยได้เปิดตัวโรงงานแห่งใหม่ในชื่อ Residue Upgrading Complex และ Olefin Downstream Complex ร่วมกับบริษัท S-Oil โรงงานใหม่ทั้งสองแห่งดังกล่าวใช้เทคโนโลยีการกลั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งได้เพิ่มสัดส่วนปิโตรเคมีของบริษัท S-Oil จาก 8% เป็น 13% ทั้งยังรองรับผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง อย่างเช่น โพรพิลีนและน้ำมันเบนซินด้วย

Amin H. Nasser ประธานและซีอีโอบริษัท Saudi Aramco กล่าวว่า "พิธีเปิดโรงงานวันนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์สำหรับทั้ง S-Oil และ Saudi Aramco บริษัท S-Oil เป็นแบบอย่างของ Saudi Aramco ในด้านยุทธศาสตร์ปลายน้ำระดับนานาชาติ และมีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานที่จำเป็นสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในเกาหลีใต้ โรงงานใหม่ทั้งสองแห่งนี้จะทำหน้าที่ผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงให้แก่อุตสาหกรรมสำคัญต่าง ๆ ในเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึงแบรนด์ระดับโลกที่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราและอยู่ในกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลกในแง่ของเทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และคุณภาพ"

นอกจากนี้ ในพิธีดังกล่าวยังมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างทั้งสองบริษัท เพื่อดำเนินโครงการ Steam Cracker & Olefin Downstream Project มูลค่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2024 โรงงานแยกสลายด้วยไอน้ำระดับโลกแห่งใหม่นี้จะผลิตเอทิลีนและสารเคมีพื้นฐานอื่น ๆ จากแนฟทาและก๊าซส่วนเกินจากโรงกลั่น

ความตกลงใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนแผนการเพิ่มกิจกรรมปิโตรเคมีทั่วโลกของบริษัท Saudi Aramco ในช่วงทศวรรษที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ ยังจะใช้เทคโนโลยีน้ำมันดิบสู่สารเคมีด้วยความร้อน (Thermal Crude-to-Chemicals Technology) ของบริษัท Saudi Aramco ซึ่งจะช่วยให้ S-Oil เปลี่ยนจุดสนใจจาก "น้ำมันไปเป็นสารเคมี" เพื่อยกระดับบทบาทของบริษัทในตลาดพลังงานในอนาคต

Aramco Overseas Company เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท S-Oil ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามในเกาหลีใต้

Saudi Aramco เริ่มลงทุนในบริษัท S-Oil เมื่อปี 1991 จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีศักยภาพผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 90,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อปี 1990 เป็นประมาณ 700,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2018