BUSINESS

แอลจี ทุ่ม 600 ล้านบาท ขยายโรงงานในไทย
POSTED ON 13/01/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายสินเมธ อิ่มเอม หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์แอลจี เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมแผนขยายการลงทุนในส่วนของโรงงานบริเวณ จ.ระยอง ในปี 2558 ภายใต้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ในการผลิตชิ้นส่วนประเภทอินเวอร์เตอร์ คอมเพรสเซอร์ เพื่อลดการนำเข้าชิ้นส่วนดังกล่าวจากที่ต้องนำเข้าจากประเทศจีนและเกาหลี ในสัดส่วน 20%

 

ทั้งนี้ การขยายโรงงานดังกล่าวก็เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียน และยังบริหารต้นทุนการนำเข้าชิ้นส่วน ปัจจุบันยังมีกำลังการผลิตที่เพียงพอ หรือ 1.6 ล้านเครื่องต่อปี จำหน่ายในประเทศ 3 แสนเครื่อง และที่เหลือส่งออกไปที่ภูมิภาคเอเชีย อาเซียน ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าประมาณ 10% ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนจากการนำเข้าชิ้นส่วนสูงขึ้น 1% อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีนโยบายในการปรับราคาสินค้าในขณะนี้

 

ส่วนแผนการทำตลาดเครื่องปรับอากาศในไทยปีนี้ จะเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าโครงการมากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนจาก 3% เป็น 6% ในปีนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยทั้งโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าที่มีการเติบโตต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับตลาดคอนซูเมอร์ ซึ่งจะเห็นได้จากอัตราการครอบครองเครื่องปรับอากาศของคนไทยที่มีสัดส่วนน้อยมาก หรือเพียง 20% จาก 12 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ แบ่งเป็นการครอบครองในพื้นที่กรุงเทพฯ 30% และต่างจังหวัด 15% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 17-18% ในปีนี้

 

นอกจากนี้ ยังเพิ่มตัวแทนจำหน่ายจากเดิมที่มีอยู่ 400 ราย เป็น 500 ราย โดยเน้นในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มทีมขายงานโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ

 

ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยปีที่ผ่านมาในเชิงปริมาณ 1.32 ล้านเครื่อง หรือเติบโต 14% เทียบกับยอดขายเครื่องปรับอากาศของแอลจีที่มีการเติบโตสูงกว่าตลาด หรือที่ 35% ขณะที่ภาพรวมตลาดปี 2557 คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 14% ทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่า หรือที่ 1.5 ล้านเครื่อง คิดเป็นมูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ทั้งการเติบโตของโครงการอสังหาริมทรัพย์ สภาพอากาศที่ร้อนเร็วขึ้น และอัตราการครอบครองเครื่องปรับอากาศ

 

ทั้งนี้ ยังเตรียมงบการตลาด 300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้แอลจีมีส่วนแบ่งการตลาดรวมเพิ่มขึ้นจาก 14% เป็น 19% และขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 2 ของตลาด จากปัจจุบันที่อยู่เบอร์ 3