Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้เป็นผู้ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ในระยะที่ 1 มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ให้กับโรงงานของโตโยต้ารวม 3 แห่ง คือ (1) โตโยต้าสำโรง (2) โตโยต้าบ้านโพธิ์ และ (3) โตโยต้าเกตเวย์ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองสำหรับกระบวนการผลิต ลดการซื้อไฟฟ้าจากระบบจำหน่ายปกติ รวมกำลังผลิตติดตั้ง 2.6 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปทั้ง 3 โรงงานให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2561 นี้

นายเกียรติพงศ์ น้อยใจบุญ ประธานคณะที่ปรึกษา บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการดำเนินการติดตั้ง เนื่องจากมีทั้งโรงงานผลิตแผงโซลาร์เซลล์และโรงงานประกอบด้วย โครงการดังกล่าวจะช่วยให้โรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้าสามารถลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างน้อยร้อยละ 10 และที่สำคัญเป็นไปตามนโยบายของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น รวมถึงยังสอดคล้องกับกระแสของโลกที่ต้องการลดภาวะโลกร้อนลงด้วย

ทั้งนี้ สำหรับอายุใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์จะอยู่ที่ 20-25 ปี ซึ่งบริษัทฯ จะดูแลหลังการขายให้จนครบอายุสัญญาดังกล่าวอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ในระหว่างเจรจากับลูกค้าอื่น ๆ ที่สนใจติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปอีกหลายราย คาดว่าในปีนี้รายได้จากธุรกิจโซลาร์เซลล์จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท และคาดว่าตลาดของโซลาร์รูฟท็อปจะขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากกระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะมีการประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรีอีกด้วย

นายเกียรติพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงลดลงต่อเนื่อง จากเดิมที่ภาครัฐต้องสนับสนุนด้วยการเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้ามากกว่า 8-10 บาท/หน่วย ในอดีตนั้น ปัจจุบันต้นทุนโซลาร์เซลล์อยู่ที่ไม่เกิน 4 บาท/หน่วยแล้ว ในขณะที่ราคาจำหน่ายไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯอยู่ที่ประมาณ 3 บาทกว่า/หน่วย เท่านั้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าต้นทุนการผลิตที่จะลดลงจะทำให้มีผู้สนใจติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองจะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ