BUSINESS

AGC มั่นใจควบรวม Vinythai ช่วยเสริมแกร่งธุรกิจเคมีภัณฑ์
POSTED ON 09/03/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

นายคาซูอะกิ โคกะ กรรมการบริหาร บริษัท เอจีซี อาซาฮี กลาส จำกัด (AGC Asahi Glass) และผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายเอสเซนเชียล เคมิคอลส์ เจนเนอรัล (Essential Chemicals General) กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ บริษัท เอจีซี อาซาฮี กลาส จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจกระจก ถือเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนยอดขายสูงสุดของบริษัทฯ จาก 4 กลุ่มธุรกิจ (กลุ่มธุรกิจกระจก กลุ่มธุรกิจอีเล็คทรอนิคส์ กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจเซรามิคส์) ขณะที่กลุ่มที่สร้างกำไรได้สูงที่สุดกลับเป็นกลุ่มเคมีภัณฑ์ ซึ่งทำกำไรได้ถึง 13,000 ล้านบาท จากกำไรรวมทั้งหมด 30,000 ล้านบาท

 

“กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เป็นกลุ่มที่ AGC ให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะมีโอกาสในการเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจคลอร์อัลคาไลน์ที่เติบโตอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลาดมีความต้องการผงพลาสติกพีวีซีและโซดาไฟสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แค่เฉพาะในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ก็คิดเป็นร้อยละ 70 ของความต้องการทั้งภูมิภาคแล้ว” นายโคกะ กล่าว

 

กลุ่มเอจีซี ได้สร้างฐานการผลิตไว้ครอบคลุมทั่วภูมิภาค โดยในประเทศไทย บริษัท ไทยอาซาฮี เคมีภัณฑ์ จำกัด มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 350,000 ตัน ส่วนบริษัท อาซาฮีมัส เคมิคอลส์ จำกัด ในอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 700,000 ตัน วีซีเอ็มอยู่ที่ 800,000 ตัน และพีวีซีอยู่ที่ 550,000 ตัน

 

ในประเทศเวียดนาม บริษัท เอจีซี เคมิคอลส์ (เวียดนาม) มีกำลังการผลิตพีวีซีอยู่ที่ 150,000 ตัน ซึ่ง หลังจากที่บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) (Vinythai) ได้เข้าร่วมกับกลุ่ม AGC แล้ว จะทำให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคอาเซียน โดยจะสามารถผลิตโซดาไฟได้ทั้งหมด 1.42 ล้านตัน วีซีเอ็มได้ 1.2 ล้านตัน และพีวีซี 980,000 ตัน

 

นายโคกะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้บริหารของ AGC มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในธุรกิจเคมีภัณฑ์ ทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างมากว่า 100 ปี และดำเนินธุรกิจในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 30 ประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก มีพนักงานทั้งหมดราว 50,000 คน นั่นจึงทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถนำความรู้ความสามารถในการผลิตและการตลาดมาช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของวีนิไทยในภูมิภาคนี้ และการเข้ามาถือหุ้นในวีนิไทยจะทำให้ AGC สามารถบริหารจัดการธุรกิจคลออัลคาไลแบบครบวงจรให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ โดยตั้งเป้าจะขยายธุรกิจออกไปยังภูมิภาคเอเชียใต้ และภูมิภาคตะวันออกกลางในอนาคตอันใกล้นี้”

 

AGC เข้ามาดำเนินงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 ปัจจุบันพนักงานของกลุ่มบริษัทในประเทศไทยมีมากกว่า 4,500 คน และในปีถัดมาได้ก่อตั้งบริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด ขึ้น โดยในปี 2560 กลุ่ม AGC ได้เข้าถือหุ้น 58.77% ของ บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายโซดาไฟ วีซีเอ็ม ผงพลาสติกพีวีซี และอีพิคลอโรไฮดริน ฐานชีวภาพ ที่มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 370,000 ตัน  วีซีเอ็ม 400,000 ตัน พีวีซี 280,000 ตัน และ อีพิคลอโรไฮดรินอีก 100,000 ตัน โดยยอดขายสุทธิจาก 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯในปี 2559 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 401,000 ล้านบาท