BUSINESS

ฮอนด้า-จีเอ็มเฮ กำไรพุ่ง ด้านโตโยต้าซบเซา กำไรหดกว่า 32%
POSTED ON 16/02/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

บริษัท โตโยต้า คอร์ป เปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงเดือน เม.ย.-ธ.ค.2559 ร่วงลง 32.5% จากปีก่อนหน้า ลงมาอยู่ที่ 1.56 ล้านล้านเยน (ราว 480,000 ล้านบาท) เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ขณะที่บริษัทฯได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปีงบประมาณจนถึงเดือน มี.ค.2560 จากเดิมอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านเยน (ราว 520,000 ล้านบาท) เป็น 1.85 ล้านล้านเยน (ราว 570,000 ล้านาบท) ลดลง 35.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

 

ด้านกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านเยน (ราว 520,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ของปีก่อนหน้าที่ 1.55 ล้านล้านเยน (ราว 470,000 ล้านบาท) โดยตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้ต่ำกว่ากำไรสุทธิของปีก่อนหน้า 26.5%

 

ในช่วงระยะเวลา 9 เดือนจนถึง ณ วันที่ 31 ธ.ค.2560 กำไรสุทธิของโตโยต้าอยู่ที่ 1.43 ล้านล้านเยน (ราว 440,000 ล้านบาท) ลดลง 24.0% ขณะที่ยอดขายลดลง 6.0% ลงไปอยู่ที่ 20.15 ล้านล้านเยน (ราว 6.17 ล้านบาท)

 

ด้านบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับที่ 3 ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2559 (เม.ย.-ธ.ค.2559) เพิ่มขึ้น 18.9% โดยมีผลกำไรสุทธิ 520,610 ล้านเยน (ราว 160,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 4.3798 แสนล้านเยนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศที่พุ่งสูงขึ้น และมาตรการปรับลดต้นทุนของบริษัท

 

ส่วนผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 23.9% แตะ 702,610 ล้านเยน (ราว 215,200 ล้านบาท) ขณะที่ยอดขายลดลง 6.5% แตะ 10.24 ล้านล้านเยน (ราว 3.14 ล้านบาท)

 

สำหรับปีงบการเงิน 2559 ฮอนด้าได้ปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรสุทธิสู่ระดับ 545,000 ล้านเยน (ราว 166,930 ล้านาบท) เพิ่มขึ้น 58.2% จากปีก่อน และยกระดับคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานขึ้นเป็น 785,000 แสนล้านเยน (ราว 240,440 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 55.9% โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้คาดการณ์ว่า ผลกำไรสุทธิและผลกำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ระดับ 415,000 ล้านเยน (ราว 127,110 ล้านบาท) และ 650,000 แสนล้านเยน (ราว 199,090 ล้านบาท) ตามลำดับ

 

ขณะที่ทางด้านค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯอย่างเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) เองก็ได้เปิดเผยถึงกำไรและรายได้ที่พุ่งขึ้นเกินคาดในไตรมาส 4/2559 โดยมีกำไร 1.28 ดอลลาร์/หุ้น (45 บาท/หุ้น) ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับ 1.17 ดอลลาร์/หุ้น (41 บาท/หุ้น) ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และมีรายได้รวม 43,910 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.54 ล้านล้านบาท) เทียบกับ 41,530 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.45 ล้านล้านบาท) ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอยู่ในสหรัฐฯ และจีน