ธุรกิจอุตสาหกรรม 23 ก.ย.2559 - กลุ่มบริษัทไทคอน มั่นใจธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตได้ตามแผน ชี้แนวโน้มโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ายังเติบโตดี โดยเฉพาะทำเลบางนา-ตราด บางพลี และวังน้อย ซึ่งตอบโจทย์ด้านการกระจายสินค้าของผู้ประกอบการเป็นอย่างดี พร้อมเดินหน้าพัฒนามินิแฟคทอรี่เฟส 2 ในโครงการ Yokohama Factory Zone  หวังโกยสัดส่วนลูกค้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มไทคอนในครึ่งปีแรกเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยกลุ่มไทคอนได้ขยายพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าพร้อมใช้เพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มไทคอนมีลูกค้าเช่าโรงงาน และคลังสินค้าเพิ่มขึ้นรวม 42 ราย ทำให้ลูกค้าทั้งหมดของ TICON และ TPARK ณ สิ้นเดือน ก.ค.2559 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 325 ราย ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติถึงร้อยละ 90 โดยลูกค้าหลักคือญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิคส์

สำหรับกลุ่มลูกค้าหลัก 3 อันดับแรกของคลังสินค้า ได้แก่ ยุโรป ญี่ปุ่น และไทย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์  

นายวีรพันธ์ ระบุว่า แนวโน้มในครึ่งหลังของปี 2559 ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าจะยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แถบบางนา-ตราด บางพลี และวังน้อย ซึ่งเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ด้านการผลิตและโลจิสติกส์ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และมีแนวโน้มขยายตัวในพื้นที่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กลุ่มไทคอนจึงเดินหน้าขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในโครงการต่าง ๆ ให้ได้ตามเป้าหมาย 280,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ภายในสิ้นปี 2559 โดยหนึ่งในแผนการพัฒนาโครงการของกลุ่มไทคอน คือ การเดินหน้าพัฒนาโรงงานขนาดมินิในโครงการ Yokohama Factory Zone ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบของไทคอนที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจากประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เป็นเฟสที่ 2 ภายในนิคมอุตสาหกรรมเอเชียสุวรรณภูมิ ประกอบด้วยโรงงานขนาด 550 ตารางเมตร จำนวน 10 ยูนิต ซึ่งหากรวมกับเฟสแรกที่พัฒนาแล้วเสร็จแล้วจะทำให้มีขนาดพื้นที่ให้เช่ารวม 11,0000 ตารางเมตร โดยคาดว่าเมื่อพัฒนาโครงการแล้วเสร็จจะมีสัดส่วนลูกค้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีก

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาคลังสินค้าในภูมิภาค ได้แก่ จ.ขอนแก่น และ จ.ลำพูน ซึ่งได้เปิดให้บริการคลังสินค้าเรียบร้อยแล้ว เพื่อรองรับธุรกิจโมเดิร์นเทรดและโลจิสติกส์ทางภาคอีสานและเหนือซึ่งกำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ  

สำหรับความคืบหน้าการขยายการลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทฯมีแผนลงทุนในประเทศเวียดนาม โดยกำลังพิจารณาหาพันธมิตรทั้งในเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนการลงทุนในประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนเช่นกัน

ในส่วนของการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียที่ได้ร่วมมือกับ SSIA และมิตซุย ในการขยายธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าขนาดพื้นที่ 146,000 ตารางเมตร นั้น ขณะนี้บริษัท SLP กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคลังสินค้าในเฟสที่ 2 ขนาดพื้นที่รวม 51,000 ตารางเมตร ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังวางแผนซื้อที่ดินเพิ่มเติมในหลายพื้นที่ในประเทศอินโดนีเซียเพื่อลงทุนต่อเนื่องอีกด้วย  

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics