ธุรกิจอุตสาหกรรม 8 มี.ค.2559 - นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2558 ว่า บริษัทฯและบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิในปี 2558 อยู่ที่ 45.97 ล้านบาท  ลดลงจากปีก่อน 94.05 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 195.61 โดยมีรายได้จากการขายเท่ากับ 1,908.68 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 117.68 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.81 และมีรายได้จากการให้บริการปี 2558 เท่ากับ 210.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.84 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 152 และรายได้จากการให้บริการตามสัญญาก่อสร้างเท่ากับ 105.10 ล้านบาท และ 21.92 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 83.18 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 379.47

ทั้งนี้ รายได้จากการขายที่ลดลง เนื่องจากการรับคำสั่งซื้อในปี 2558 เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี จึงทำให้กำหนดส่งมอบสินค้าในปี 2559 เป็นส่วนใหญ่ แต่บริษัทฯยังคงมีรายได้จากการให้บริการและ รายได้จากการให้บริการตามสัญญาก่อสร้างสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี ความต้องการสินค้าอันเนื่องมาจากการขยายตัวของการใช้พลังงานไฟฟ้า และการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม ยังคงมีในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ยังมีการประมูลงานรวมไม่น้อยกว่า 9,800 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 2,000 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 2,500 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) 3,500 ล้านบาท และภาคเอกชนภายในประเทศ 1,100 ล้านบาท และส่งออกประมาณ 700 ล้านบาท ทั้งนี้  คาดว่าจะสามารถชนะการประมูลงานได้ไม่น้อยกว่า 20% หรือ ประมาณ 1,915 ล้านบาท

ในปีนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) มีการขยายตัวอย่างมาก โดยในปีนี้มีการเปิดประมูลหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง (Power) ถึง 3,500 ล้านบาท และอีก 5 ปีข้างหน้ารวมแล้วมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหม้อแปลงไฟฟ้า Power ที่มีถิรไทยซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยเพียงรายเดียวที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งต่างประเทศได้ นั่นจึงทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าจะได้รับงานจาก กฟผ. ไม่น้อยกว่า 20-25%

บริษัทฯคาดว่าในปี 2559 นี้ จะมีผลประกอบการไปในทิศทางที่ดีขึ้นไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท จากการขยายตัวของการใช้ไฟฟ้า และการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ทั้งตลาดพลังงานทดแทน วินด์ฟาร์ม และโซลาร์ฟาร์ม โดยรายได้จะมาจากกลุ่มภาครัฐบาลประมาณ 655 ล้านบาท กลุ่มบริษัทเอกชนภายในประเทศ 1,025 ล้านบาท ส่งออก 570 ล้านบาท ซึ่งสามารถแยกมูลค่างานเป็นหม้อแปลง Power เป็นหลักถึง 1,600 ล้านบาท และกลุ่ม Distribution 650 ล้านบาท และการบริการอื่น ๆ และบริษัทในเครืออีกกว่า 1,802 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) แล้วกว่า 2,969 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกลุ่มภาครัฐ 252 ล้านบาท กลุ่มบริษัทเอกชนในประเทศ 778 ล้านบาท และส่งออกอีก 438 ล้านบาท รวมถึงการบริการอื่นๆ และบริษัทในเครืออีกกว่า 1,501 ล้านบาท ซึ่งทำให้บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

นายสัมพันธ์ เปิดเผยด้วยว่า "สำหรับทิศทางบริษัทฯในอีก 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2559-2561) บริษัทฯยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเติบโตของการใช้พลังงานไฟฟ้า รวมถึงพลังงานทดแทน โดยในปี 2561 คาดว่าบริษัทฯจะมีรายได้เฉียด 5,000 ล้านบาท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง (Power) ที่บริษัทฯถือเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ของไทย

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้ดำเนินการเพิ่มศักยภาพการผลิต โดยการสร้างโรงงานใหม่ ที่จะเริ่มสายการผลิตได้ในเดือน ส.ค.2559 เพื่อรองรับสายการผลิตเดิม และสนับสนุนสายการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ ทำให้ถิรไทยมีศักยภาพในการผลิตเพิ่มจาก 5,500 MVA เป็น 9,000 MVA ซึ่งจะสามารถรับรองการเติบโตของการผลิตไปอีก 5-7 ปีข้างหน้า

"ผลจากที่ภาครัฐมีแผนในการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามแผนพัฒนาของประเทศ (PDP 2015) ทำให้สภาวะการแข่งขันทางด้านราคาผ่อนคลายลง ซึ่งสามารถทำให้ถิรไทยสามารถรักษากำไรขั้นต้นเป็นไปตามนโยบาย 20-25% ได้อีกด้วย" นายสัมพันธ์ กล่าว

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics