BUSINESS

SUPER ลุยซื้อโซลาร์ฟาร์มเพิ่ม 5 แห่ง กำลังการผลิต 290MW
POSTED ON 03/11/2558


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2558 มีมติอนุมัติให้ บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) ซึ่งถือหุ้น 100% ของทุนจดทะเบียน โดยบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด (SUPERE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าลงทุนในโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตรวม 290.05 เมกะวัตต์ โดยการเข้าซื้อหุ้นและ/หรือรับโอนสิทธิและ/หรือเพิ่มทุนใหม่ รวมทั้งสิ้น 5 รายการ ดังนี้

 

รายการที่ 1 อนุมัติการซื้อหุ้นและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท พาวเวอร์ เทคโนโลยีอินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (PTI) ทั้งนี้ PTI เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) จำนวน 9 โครงการขนาดรวม 55.6 เมกะวัตต์ซึ่ง ปัจจุบันได้รับหนังสือแจ้งผลพิจารณาการรับซื้อไฟฟ้า (Letter of Intent - LOI) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้ว โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดไม่เกิน 3,719.44 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 3,447 ล้านบาท และมูลค่าการซื้อหุ้นสามัญของ PTI จำนวน 272.44 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน PTI ในสัดส่วน 49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

 

รายการที่ 2 อนุมัติการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท เอ็นเนอร์ จี เซิฟ จำกัด (ESERVE) ทั้งนี้ ESERVE เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์จำนวน 13 โครงการ ขนาดรวม 81.45 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันได้รับ LOI กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้ว โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดรวมไม่เกิน 5,453.72 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 5,050 ล้านบาท และมูลค่าการซื้อหุ้นสามัญของ ESERVE ทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวน 403.72 ล้าน ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน ESERVE ในสัดส่วน 49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

 

รายการที่ 3 อนุมัติการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท อินฟินิท อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่จำกัด (IAE) ทั้งนี้ IAE เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ใน บริษัท รางเงิน โซลูชั่น จำกัด (RNS) ในสัดส่วน 99.98% ของทุนจดทะเบียน โดย RNS มี PPA กับการไฟฟ้าภูมิภาคแล้วจำนวน 11 โครงการ ขนาดรวม 87 เมกะวัตต์ โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดรวมไม่เกิน 5,922 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 5,632 ล้านบาท และมูลค่าการซื้อหุ้นสามัญของ IAE คือ 290 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน IAE ในสัดส่วน 33% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

 

รายการที่ 4 อนุมัติการซื้อหุ้นและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท อามานูฟจำกัด (AMN) โดย SSE จะเข้าลงทุนใน AMN ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิประโยชน์ในคำขอจำหน่ายไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์และสิทธิประโยชน์ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าภูมิภาค จำนวน 5 โครงการ ขนาดรวม 30 เมกะวัตต์ จากบริษัท เอ็น.พี.เอส.สตาร์กรุ๊ป จำกัด (NPS) มีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดไม่เกิน 2,056 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 1,860 ล้านบาท และมูลค่าการรับโอนสิทธิจาก NPS จำนวน 196 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน AMN ในสัดส่วน 49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

 

รายการที่ 5 อนุมัติการซื้อหุ้นและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท ศรีนาคา พาวเวอร์ จำกัด (SNP) โดย SSE จะเข้าลงทุนใน SNP ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิประโยชน์ในคำขอจำหน่ายไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์และสิทธิประโยชน์ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าภูมิภาค จำนวน 6 โครงการ ขนาดรวม 36 เมกะวัตต์ จาก NPS มีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดไม่เกิน 2,392 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 2,232 ล้านบาท และมูลค่าการรับโอนสิทธิจาก NPS จำนวน 160.40 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน SNP ในสัดส่วน 49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

 

ทั้งนี้ การลงทุนทั้ง 5 โครงการคิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 19,543.16 ล้านบาท สำหรับแหล่งเงินลงทุนที่จะใช้ในการลงทุนดังกล่าวจะมาจากการเพิ่มทุนและการแปลงสภาพวอร์แรนต์ โดยคาดว่าจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 18,850 ล้านบาท โดยมาจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์ รุ่นที่ 1, 2 และ 3 รวม 13,850 ล้านบาท และการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทไม่เกิน 2,000 ล้านหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ดังนั้น ในด้านของเงินทุนจึงไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด

 

อย่างไรก็ตาม การเข้าทำรายการทั้ง 5 รายการนี้ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทมี PPA จำนวน 460 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์โดยตรงต่อบริษัทฯ โดยช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและสร้างรายได้ในอนาคตให้แก่บริษัท นอกจากนั้น ราคาที่ตกลงในการเข้าทำรายการครั้งนี้เป็นราคาที่เหมาะสมและอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีรายได้และผลกำไรที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคตอันใกล้

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics