ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯดำเนินแผนผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 3 แห่ง รวม 188 เมกะวัตต์  ได้แก่ โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ จ.ลพบุรี, โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ จ.นครสวรรค์ และโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ จ.ลำปาง ซึ่งธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

สาเหตุที่ยอดผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในปีนี้เป็นผลจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ลำปางใช้เทคโนโลยีระบบปรับหมุนตามแสงอาทิตย์ จึงสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าโครงการที่นครสวรรค์ซึ่งใช้ระบบคงที่ เห็นได้จากยอดผลิตไฟฟ้าโดยนับจากวันที่ 17 ก.พ.- 15 มิ.ย.2558 ปรากฏว่า ยอดผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์ม จ.นครสวรรค์ เฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 17% จากเป้าหมายที่ 472,626 กิโลวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จ.ลำปาง มียอดผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 22% จากเป้าหมายที่ 557,589 กิโลวัตต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีระบบปรับหมุนตามแสงอาทิตย์ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าระบบคงที่ นอกจากนี้ จากสภาพภูมิอากาศที่ฝนตกน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้น

ในปี 2557 ยอดผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จ.ลพบุรี และ จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 14.45 ล้านยูนิต และ 197.72 ล้านยูนิต ตามลำดับ โดยมียอดผลิตไฟฟ้ารวมของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มทั้ง 2 แห่ง อยู่ที่ 212.17 ล้านยูนิต ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดผลิตไฟฟ้าทั้งปี 2558 ของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มทั้ง 3 แห่ง ดังนี้

1. โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จ.ลพบุรี อยู่ที่ 13.86 ล้านยูนิต (รายได้จากการขายไฟ รวม adder ประมาณหน่วยละ 11.70 บาท)

2. โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จ.นครสวรรค์ 194.75 ล้านยูนิต (รายได้จากการขายไฟ รวม adder ประมาณหน่วยละ 10.20 บาท)

3. โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จ.ลำปาง 187.68 ล้านยูนิต ซึ่งเริ่มผลิตเมื่อ 17 ก.พ.2558 ที่ผ่านมา (รายได้จากการขายไฟ รวม adder ประมาณหน่วยละ 10.20 บาท)

โดยเป้าหมายดังกล่าวคำนวณค่าเสื่อมสภาพของแผงโซล่าฟาร์มในแต่ละปีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จึงคาดว่าจากยอดผลิตไฟฟ้าของทั้ง 3 โรงที่วางไว้ในปีนี้ที่ 396.29 ล้านยูนิต จะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทฯกว่า 4,062 ล้านบาท สนับสนุนเป้าหมายรายได้รวมของบริษัทฯทั้งปีจะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% จากปี 2557 มีรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 7,600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้

สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและกลีเซอรีนนั้น  บริษัทฯได้พยายามปรับปรุงระบบการผลิตให้มีต้นทุนที่ต่ำลง เพื่อผลักดันรายได้ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และมองว่าในช่วงต่อจากนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนจะค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น จนมากกว่าธุรกิจไบโอดีเซลในที่สุด จากการรับรู้รายได้ของโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและจะทยอยแล้วเสร็จในอนาคต

โดยคาดว่าในปีนี้สัดส่วนรายได้ของธุรกิจไบโอดีเซลจะอยู่ที่ 40% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ 71% ของรายได้ทั้งหมด และธุรกิจพลังงานทดแทนจะอยู่ที่ 60% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ 29% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนกำไรสุทธิในปี 2558 จากธุรกิจไบโอดีเซลคาดว่าจะอยู่ที่ 5% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ 10%ของกำไรสุทธิทั้งหมด และธุรกิจพลังงานทดแทนอยู่ที่ 95% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ 90% ของกำไรสุทธิทั้งหมด

นายอมร กล่าวว่า "ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจบริษัทฯ ถือว่าบรรลุตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีผลการดำเนินงานดีเกินคาด ซึ่งเป็นผลจากการผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นตามการเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ จ.ลำปาง เข้ามาสนับสนุน และด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ด้วยระบบปรับทิศทางการรับแสงอาทิตย์มีประสิทธิภาพกว่าระบบคงที่"

"นอกจากนี้ จากสภาพภูมิอากาศที่ฝนตกน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้น และหากเปรียบเทียบยอดผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่นครสวรรค์ นับจากต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถผลิตได้ 554,335 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้น 1% จาก 541,587 ยูนิตในปี 2557 ส่วนยอดผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ลำปาง ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถผลิตได้ 678,395 ยูนิต ยอดผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ลพบุรี นับจากต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถผลิตไฟได้ 40,932 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้น 3% จาก 40,932 ยูนิตในปี 2557" นายอมรกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า ขนาด 90 เมกะวัตต์ ที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งขณะนี้เดินได้ตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ สนับสนุนให้ในปี 2559 บริษัทฯจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 แห่ง มีขนาดกำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดรวม 126 เมกะวัตต์ ที่ จ.นครศรีธรรมราช 2 โครงการ และ จ.สงขลา อีก 1 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นในปีนี้ประมาณ 18,000 ล้านบาท