ธุรกิจอุตสาหกรรม - หนังสือพิมพ์แนวหน้า รายงานข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ถึงการลงทุนเพิ่มในต่างประเทศอีก 1,500 ล้านบาท ของบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) โดย "นายสนั่น อังอุบลกุล" ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2558 นี้ บริษัทฯมีแผนจะลงทุนในต่างประเทศเพิ่มอีก 1,500 ล้านบาท โดยลงทุนสร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกแห่งใหม่ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ในประเทศเวียดนาม ใช้เงินทุนประมาณ 500 ล้านบาท น่าจะเริ่มเดินเครื่องทำการผลิตได้ในปลายปี 2558

ปัจจุบันบริษัทฯมีโรงงานอยู่ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม 2 แห่ง ผลิตเมลามีน กำลังผลิต 20,000 ตันต่อปี ซึ่งหากโรงงานแห่งใหม่สร้างเสร็จจะช่วยเพิ่มกำลังผลิตได้ถึง 7,000 - 8,000 ตันต่อปี โดยสินค้าที่ผลิตในประเทศเวียดนาม 80-90% จะขายในประเทศเวียดนาม และที่เหลือจะส่งออกไปยังประเทศฟิลิปปินส์

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตภาชนะเมลามีนแห่งใหม่ที่รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย คาดว่าจะเสร็จภายในปี 2558 จะเพิ่มกำลังผลิตได้ 6,000 ตันต่อปี และจะทดลองขายในประเทศอินเดียเป็นหลัก เพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แต่ก็ต้องทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและวัฒนธรรมของผู้บริโภคไปพร้อมกันด้วย อีกทั้งยังเตรียมจะขยายการลงทุนตั้งโรงงานผลิตในกรุงจากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาพันธมิตรผู้ร่วมทุน

นายสนั่น กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจว่าจะเติบโตได้ประมาณ 7% หรือมีมูลค่าประมาณ 10,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับลดเป้าหมายจากที่คาดการณ์เดิมเมื่อช่วงสิ้นปี 2557 ที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตประมาณ 12% เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดต่ำลง ทำให้ราคาเม็ดพลาสติกซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตราคาลดลง ส่งผลทำให้มูลค่ายอดขายลดลงตามไปด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของกำไรนั้นคาดว่าจะไม่ลดลงและน่าจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯตั้งเป้าที่จะมีรายได้ถึง 20,000 ล้านบาท และเชื่อว่าบริษัทมีโอกาสมากในการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมซื้อกิจการโรงงานพลาสติกในประเทศเวียดนาม มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท หากสามารถเจรจาหรือตกลงซื้อขายกิจการกันได้สำเร็จ คาดว่าจะทำให้ธุรกิจของบริษัทฯในประเทศเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างมาก และจะเติบโตแซงหน้าธุรกิจในประเทศไทยในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้เตรียมจะขยายการลงทุนในธุรกิจค้าปลีกหรือรีเทลในประเทศไทย โดยได้ทำการทดลองตั้งเอาท์เล็ทที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเดือน เม.ย.2558 ที่ผ่านมา ซึ่งภายในร้านจะวางจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯประมาณ 70% ส่วนอีก 30% จะจำหน่ายสินค้าอื่นๆ และในอนาคตจะขยายการลงทุนตั้งเอาท์เล็ทใน 4 มุมเมือง รวมถึงยังเตรียมจะออกสินค้านวัตกรรมใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3/2558 นี้ ภายใต้ชื่อ “Porceline” ซึ่งเป็นภาชนะที่มีรูปลักษณ์เหมือนสินค้า porcelain ทั้งในส่วนของรูปร่างและน้ำหนัก แต่จะตกแล้วไม่แตก โดยสินค้าใหม่นี้จะส่งออกไปขายที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นตลาดแรก ก่อนจะขยายไปยังตลาดอื่นๆ

อ้างอิง : http://www.naewna.com/business/157471