BUSINESS

บางจาก เร่งทบทวนความคุ้มค่าการลงทุนเหมืองโปแตซ
POSTED ON 06/03/2558


ธุรกิจอุตสาหกรรม - หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจรายงานข่าวเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2558 ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เข้ามาซื้อหุ้นสามัญ บริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ AMPC เมื่อปี 2551 จากธนาคารทหารไทย ร้อยละ 6.56 เพื่อต่อยอดธุรกิจสีเขียว โดยนำโปแตชไปผลิตปุ๋ย เพื่อใช้ปลูกปาล์ม นำไปผลิตไบโอดีเซล (B100) ในอนาคตนั้น ล่าสุดราคาโปแตชลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้บางจากต้องกลับมาทบทวนความคุ้มค่าของโครงการ

 

แหล่งข่าวจากบริษัท บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้เตรียมนำเสนอคณะกรรมการบริหารพิจารณาขายหุ้นร้อยละ 11.59 ในบริษัท เหมืองแร่โปแตช อาเซียน เพื่อสำรวจและผลิตแร่โปแตช อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ด้วย 3 เหตุผลหลักคือ

 

1. สถานการณ์ราคาโปแตชเปลี่ยนมากจากช่วงที่ตัดสินใจลงทุน ราคาปรับจาก 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็น 700 เหรียญสหรัฐ/ตัน ล่าสุดลงมาอยู่ที่ 300 เหรียญสหรัฐ/ตัน อาจจะไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน

 

2. เป้าหมายของบางจากที่เข้ามาลงทุนต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จะได้นำเสนอเทคโนโลยี Solution Mining หรือการอัดน้ำลงไปใต้ดินเพื่อละลายเกลือ แล้วสูบน้ำขึ้นมาเข้าโรงงานเพื่อแยกโปแตชออกมา ส่วนน้ำเกลืออื่นๆ อัดกลับลงไปใต้ดิน มาใช้กับโครงการ แต่ล่าสุดกระบวนการผลิตที่เตรียมนำมาใช้คือ Conventional Mining หรือระบบเหมืองเปิดที่ต้องขุดเกลือออกมาแล้วมาแยกโปแตช เกลือ ที่เหลือจะเก็บไว้เป็นภูเขาเกลือ

 

3. ประเด็นสิ่งแวดล้อมค่อนข้างกังวล เพราะบางจากมีภาพของธุรกิจสีเขียว ในขณะที่ภาคสังคมตั้งคำถามถึงการจัดการกองเกลือที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตเพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตคนรอบเหมือง

 

ทั้งหมดนี้จึงทำให้บอร์ดต้องทบทวนอีกครั้งว่าจะลงทุนในโครงการต่อไปหรือไม่ คาดการณ์ว่าเร็วๆ นี้ ทางบริษัท เหมืองแร่โปแตช อาเซียนฯ จะเตรียมทำหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นให้เพิ่มทุน เพราะล่าสุดโครงการดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาแบบประเมิน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) รวมถึงได้รับประทานบัตรจากกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว

 

ราคาโปแตชร่วงลงมามากและตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา โครงการฯยังไม่สามารถพัฒนาได้ ที่สำคัญสัดส่วนการถือหุ้นของบางจากลดลงทุกครั้งที่เพิ่มทุน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้อาจทำให้บอร์ดบางจากตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หากตัดสินใจขายหุ้น ในขณะนี้น่าจะได้ราคาหุ้นที่ค่อนข้างดีเพราะผ่านกระบวนการต่างๆ เตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการฯได้ทันที

 

ด้าน นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาโปแตชลดลงจนอาจจะต้องติดตามความเหมาะสมและความคุ้มค่าของโครงการอีกครั้ง การที่ภาครัฐมีนโยบายต้องการสนับสนุนให้มีการผลิตโปแตชในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ มองว่าเป็นนโยบายที่ดี แต่ในแง่ของนักลงทุนจะต้องมองที่ความคุ้มค่าของโครงการมากกว่า

 

ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เหมืองแร่โปแตช อาเซียน คือ กระทรวงการคลัง 24.76% บริษัท เทพารักษ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 11.78% บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 11.59% บริษัท ไทย-เยอรมัน ไมนิ่ง จำกัด 10.95% พี ที พี โทรคีเมีย กรีซิค (เพอซีโร) 10.05% มินิสเตอร์ ออฟ ไฟแนนส์ (อินคอร์ปอเรชั่น) 10.05% บริษัท ทีอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด 3% ฯลฯ