BUSINESS

ปตท. เผย ปี 2557 น้ำมัน-NGV-LPG ขาดทุนเกือบ 8 หมื่นล้านบาท
POSTED ON 23/02/2558


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2557 ว่า ปตท.มีกำไร 55,795 ล้านบาท ลดลง 37,296 ล้านบาท หรือลดลง 40.1% เมื่อเทียบกับปี 2556 อยู่ที่ 93,091 ล้านบาท เป็นผลมาจากการขาดทุนในธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ที่รัฐบาลตรึงราคาจำหน่ายไว้ ทำให้ขาดทุนถึง 19,000 ล้านบาท รวมถึงก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ขาดทุน 10,000 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ ทั้งเครือ ปตท.ยังขาดทุนจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ถึง 50,000 ล้านบาท โดย ปตท.ถือหุ้นในบริษัทลูกอยู่ 50% ทำให้ขาดทุนจากน้ำมัน 29,000 ล้านบาท เป็นต้น

 

"การที่ราคาน้ำมันปรับลดลงอย่างมาก ทำให้บริษัทลูกของ ปตท. โดยเฉพาะ บมจ.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. ได้รับผลกระทบสูงสุด ดังนั้น ทาง ปตท.ทั้งเครือจะปรับแผนลงทุนของปี 2558 ใหม่ ซึ่งภายในสิ้นเดือน มี.ค.2558 จะมีความชัดเจน ซึ่งเป็นการปรับแผนเร็วกว่ากำหนด ที่ปกติจะต้องทบทวนแผนทุกครึ่งปี ทั้งนี้ เห็นว่าราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ในขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่เหมาะแก่การเข้าไปซื้อกิจการหรือลงทุนเพิ่ม เพราะราคาน้ำมันต่ำและค่าเงินบาทหลายประเทศอ่อนค่าลง" นายไพรินทร์ กล่าว

 

ด้าน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ พีทีทีจีซี กล่าวว่า พีทีทีจีซี เตรียมเข้าไปลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าโครงการถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากสถานการณ์ราคาก๊าซจากชั้นหินดินดาน (เชลล์แก๊ส) ที่สหรัฐฯ มีราคาถูกประมาณ 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล คาดว่าภายในเดือน มี.ค.-เม.ย.2558 นี้ จะสรุปพื้นที่ลงทุนได้เพื่อเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) พีทีทีจีซี พิจารณา

 

สำหรับผลการดำเนินงานของ พีทีทีจีซี ในปี 2557 มีกำไรสุทธิ 15,036 ล้านบาท หรือปรับตัวลดลง 55% จากปี 2556 ซึ่งมีกำไรรวมสุทธิอยู่ที่ 33,140 ล้านบาท มาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 ทำให้เกิดผลกระทบจากมูลค่าสต็อกน้ำมันเป็นจำนวนมาก ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 570,224 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 549,189 ล้านบาท