ธุรกิจอุตสาหกรรม - แหล่งข่าวจากกรมบังคับคดีเปิดเผยว่า คดีขอรับการฟื้นฟูกิจการของบริษัท สหฟาร์ม จำกัด และ บริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จำกัด และศาลล้มละลายกลางได้ตัดสินอนุญาตให้มีการฟื้นฟูกิจการและลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2557 ขณะนี้ได้พ้นกำหนดเวลา 3 เดือนที่ บริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการต้องยื่นแผนให้ศาลพิจารณาแล้ว แต่ได้มีการร้องขอขยายเวลาที่กำหนดออกไปอีก 1 เดือน ทำให้กำหนดเวลาใหม่ถูกเลื่อนเป็นวันที่ 16 ก.พ.2558

แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัท เอินส์ท แอนด์ ยังฯ ยังสามารถขอขยายกำหนดส่งแผนฟื้นฟูกิจการได้อีก 1 ครั้ง ซึ่งจะเลื่อนกำหนดเวลาออกไปอีก 1 เดือน แต่ยังไม่ได้มีการร้องขอ ส่วนกรณีที่มีผู้คัดค้านการฟื้นฟูกิจการ ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ในชั้นนี้ เนื่องจากศาลได้ตัดสินแล้ว หากจะมีการคัดค้านจะต้องโต้แย้งในเนื้อหาของแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อมีการนัดประชุมเจ้าหนี้ซึ่งน่าจะเป็นช่วงปลายเดือน เม.ย.2558 ทั้งนี้ แล้วแต่วิจารณญาณของศาล

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กรณีที่มีหมายศาลเรียกสืบค้านคำขอรับชำระหนี้เจ้าหนี้บางรายนั้น เป็นกรณีที่ยอดหนี้ไม่ตรงกัน ทำให้ต้องมีการนัดสืบค้านพยานเป็นรายๆ ไป

ด้าน นายบรรเจิด แก้วกำเนิด ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ในระบบพันธสัญญา เปิดเผยว่า เกษตรกรในเครือข่ายที่เป็นคู่ความกับเครือสหฟาร์มมีอยู่กว่า 300 ราย ในหลายจังหวัด เช่น นครราชสีมา เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ทยอยได้รับใบแจ้งจากศาลให้ไปสืบค้านคำขอรับชำระหนี้แล้วประมาณกว่า 100 ราย ซึ่งจะต้องไปสืบค้านช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.2558 นี้

ยอดหนี้ที่ได้แจ้งไปนั้นมีเจ้าหน้าที่เครือสหฟาร์มมาให้ความช่วยเหลือด้านการเตรียมเอกสารตั้งแต่ต้นเมื่อบริษัท เอินส์ท แอนด์ ยังฯ แจ้งว่ายอดหนี้ไม่ถูกต้องตรงกัน หรือบางรายได้รับแจ้งว่ายอดหนี้นั้นหมดอายุความไปแล้ว แม้ว่าจะมีอายุหนี้เพียง 1.5-2.5 ปี ทำให้เกษตรกรสับสน และเกษตรกรบางรายที่ยังไม่ได้รับใบแจ้งจากศาลเกิดความไม่แน่ใจ เกรงว่าถ้าไม่ทราบคำสั่งศาลและไม่ไปตามนัดจะถูกตัดสิทธิรับชำระหนี้

นายบรรเจิด เปิดเผยต่อว่า เกษตรกร 20-30% ในเครือข่ายยังคงเลี้ยงไก่กับเครือสหฟาร์มอยู่ และมีการดำเนินการตามปกติ แต่ส่วนใหญ่ได้ย้ายไปเลี้ยงไก่กับบริษัทอื่นแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสหฟาร์มมักเตือนว่าเกษตรกรต้องกลับมาเลี้ยงไก่ให้กับเครือสหฟาร์ม มิฉะนั้นจะไม่ได้รับชำระหนี้ ทำให้เกษตรกรต้องการกลับมาเลี้ยงไก่กับสหฟาร์มเช่นเดิม หากว่าบริษัทฯ ฟื้นฟูกิจการได้

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ