BUSINESS

CKP รุกหนักธุรกิจพลังงาน เชื่อ ปี 2560 รายได้พุ่ง
POSTED ON 12/02/2558


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) คาดว่า รายได้ปีนี้จะเติบโต 5-8% จากปีก่อนที่คาดจะทำรายได้ระดับ 7,000 ล้านบาท โดยรายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ไม่มากนัก เพราะยังไม่มีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาใหม่ แต่คาดว่ารายได้จะเติบโตก้าวกระโดดในปี 2560 หลังจากที่โรงไฟฟ้าบางปะอินเฟส 2 (BIC-2) ขนาด 120 เมกะวัตต์ จะเริ่มจ่ายไฟฟ้า

 

ส่วนการเข้าซื้อหุ้น 30% ในบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) จาก บมจ.ช.การช่าง (CK) นั้น จะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดเป็น 2,160 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 755 เมกะวัตต์ หรือเติบโต 3 เท่าตัว โดยบริษัทฯ คาดว่าได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้ 10-15%

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน 5,600 ล้านบาท นำไปจ่ายค่าหุ้นให้กับ CK จำนวน 4,344 ล้านบาท และอีก1,266 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในปี 2558-2559 ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะต้องจ่ายส่วนเงินลงทุนของโครงการไซยะบุรีในอีก 5 ปี รวมเป็นเงิน 5,500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะได้เงินจากการออกวอแรนต์ 11,120 ล้านบาท มาใช้ลงทุนดังกล่าวได้

 

สำหรับบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด หรือ XPCL เป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ใน สปป.ลาว มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ และจะขายไฟฟ้ากลับมาไทยจำนวน 1,220 เมกะวัตต์  เป็นเวลา 29 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2562 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาโครงการพลังงานในพม่า ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการศึกษามา 2-3 ปีแล้ว และคาดในปีนี้น่าจะความชัดเจนอย่างน้อย 1 แห่ง

 

บริษัทฯ ยังได้เจรจาซื้อกิจการและร่วมลงทุน (M&A) ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งคาดว่าปีนี้น่าจะสรุปได้อย่างน้อย 1 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมยื่นขอสร้างโรงไฟฟ้า SPP ในนิคมอุตสาหกรรม 8 แห่ง มีกำลังการผลิตแห่งละ 120 เมกะวัตต์ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท/แห่ง โดยขณะนี้รอความชัดเจนจากภาครัฐและนิคมอุตสาหกรรม