BUSINESS

NDR ตั้งเป้าสู่ท็อป 3 ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศ
POSTED ON 14/01/2558


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการเป็นผู้ผลิตของอุตสาหกรรมผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศ โดยมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพของสินค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า รวมถึงการพัฒนาสินค้าให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ในระยะยาว พร้อมสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ได้ โดยวางเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศภายใน 3 ปี (2560)

 

ส่วนการที่หุ้น NDR จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 15 ม.ค.2558 นี้ ตนเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน หลังจากกระแสตอบรับในช่วงเปิดขายหุ้นไอพีโอระหว่างวันที่ 7-9 ม.ค.2558 ที่ผ่านมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนมองเห็นแนวโน้มในอนาคตธุรกิจของ NDR ที่เติบโตตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมจักรยานยนต์และแผนการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

 

"ขอให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นใน NDR ว่าคณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ มีแผนการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและขอให้นักลงทุนทุกท่านสบายใจและมั่นใจได้ เพราะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เต็มใจนำหุ้นที่เหลือเข้า Lock-up Period ทั้งหมด 100% นอกเหนือจากหุ้นที่เข้าเกณฑ์จะต้องติดไซเรนพีเรียดอยู่แล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่าเราพร้อมจะยืนหยัดอยู่กับ NDR ตลอดไป" นายชัยสิทธิ์ กล่าว

 

ด้าน นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) กล่าวว่า "มั่นใจว่าหุ้น NDR จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง ซึ่งมีลูกค้าหลักประเภท OEM ในประเทศมาเลเซีย รวมถึงมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 รายทั่วประเทศ และรับจ้างผลิตในประเทศให้กับบริษัทชั้นนำในประเทศไทย เช่น YAMAHA เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแผนการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และมีการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต" นายวิชา กล่าว