ธุรกิจอุตสาหกรรม - น.ส.วันทนี แสงอุทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จํากัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งจากเนื้อปลาบดภายใต้แบรนด์ “ลัคกี้” (LUCKY) เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทฯ เตรียมปรับกลยุทธ์เพื่อรุกตลาดในประเทศมากขึ้น หลังพบว่าตลาดอาหารเนื้อปลาแปรรูปของไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10% จนมูลค่าปัจจุบันมาอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท

โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในระยะ 5 ปีนับจากนี้ จะมีรายได้รวมปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท พร้อมขึ้นเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งพร้อมทาน ซึ่งในเบื้องต้นนั้น ช่วง 1-2 ปีแรก บริษัทฯ จะเน้นในเรื่องของการลงทุนทั้งในการขยายกำลังการผลิตผ่านการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อแทนแรงงานคน ซึ่งจะเพิ่มการใช้เครื่องจักรจากสัดส่วน 60% เป็น 75% วางงบประมาณการลงทุนในช่วงแรก (ปี 2557-2558) ไว้ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท สำหรับโรงงานที่สมุทรสาคร บนเนื้อที่ 15 ไร่ รวมถึงปลายปีหน้าจะมีการขยายโรงงานในต่างประเทศเพิ่มเติม จากปัจจุบันมีอยู่ในประเทศโปแลนด์ 1 โรงงาน

ทั้งนี้ การขยายกำลังการผลิตดังกล่าว เพื่อรองรับการขยายตลาดผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูประดับบน (พรีเมียม) ที่มีอัตราการเติบโตสูงในปัจจุบัน หรือมีการเติบโตประมาณ 20% ในแต่ละปี โดยจะใช้แบรนด์ “ลัคคี้” เป็นแบรนด์หลักในการทำตลาด และเน้นการทำตลาดในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นตัวแทนร้านค้า ตลาดสด และกลุ่มโฮเรก้า (HORECA) หรือกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร และบริการจัดเลี้ยง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากตลาดระดับบนเป็น 20% จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 5% ได้ในอนาคต

"สำหรับยอดขายในปีนี้ของบริษัทฯ จะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายต่างประเทศประมาณ 1,500 ล้านบาท  และขายในประเทศ 200-300 ล้านบาท และหลังจากหันมารุกตลาดในไทย ก็คาดหวังว่าจะมียอดขายเติบโตอย่างน้อย 20% หรือคิดเป็นเม็ดเงินราวๆ 2,200 ล้านบาท" น.ส.วันทนี กล่าว

ด้าน นายสุรเดช ชินสกุลเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จํากัด กล่าวว่า ในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายในประเทศเติบโต 20% หรือประมาณ 400 ล้านบาท โดยยอดขายที่มาจากกลุ่มโรงงาน ตัวแทนร้านค้า ตลาดสด โฮเรก้า จะมีสัดส่วน 80% หรือประมาณ 320 ล้านบาท และสัดส่วนอีก 20% หรือประมาณ 80 ล้านบาท จะมาจากร้าน LUCKY MART ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น เช่น ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) และการออกบูธ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้ามากขึ้น ภายใต้งบการตลาดกว่า 30 ล้านบาท