ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใมกหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ เปิดเผยในงานการแสดงกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ของไทยเบฟเวอเรจในปี 2563 ซึ่งเป็นแผนการดำเนินธุรกิจในอีก 6 ปีข้างหน้า ว่า บริษัทฯ จะให้ความสำคัญผ่านกลยุทธ์หลัก 5 ประการ คือ (1) การเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ (2)การเพิ่มความหลากหลายของตลาดและผลิตภัณฑ์ (3) การสร้างแบรนด์สินค้าที่โดนใจ (4) การกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง และ (5) ความเป็นมืออาชีพ

โดยตนได้วางวิสัยทิศน์ในการสร้างการตลาดให้ทุกผลิตภัณฑ์ในเครือ ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มสุรา กลุ่มเบียร์ และกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ ให้มียอดขายติด 1 ใน 2 ของตลาด รวมถึงปรับสัดส่วนโดยเฉพาะกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ให้มีสัดส่วน 50% ของรายได้รวมในปี 2563 เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียง 25% และวางแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายในต่างประเทศให้เกิน 50%

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และการออกสินค้าใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกๆ ผลิตภัณฑ์ ผ่านงบประมาณการลงทุนเบื้องต้นในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท โดยวางเป้าว่าในแต่ละปีบริษัทฯ จะมีการเติบโตประมาณ 12-15%

ด้าน นายอวยชัย ตันทโอภาส กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายบริหารการขายธุรกิจสุรา และกรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจสุรา บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า ธุรกิจสุราของบริษัทฯ หลังจากนี้จะเข้าไปทำตลาดในระดับบนมากขึ้น รวมถึงตลาดต่างประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมาร์ ขณะที่ตลาดในไทยจะใช้แบรนด์ “แม่โขง” ทำตลาดระดับบนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวตามโรงแรมและสนานที่ท่องเที่ยว ตั้งเป้าทุกแบรนด์ที่เป็นสุราจะติดอันดับ 1 และ 2 ของตลาด

นายฮวง ฮง เป็ง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเบียร์ เอฟแอนด์เอ็น กลุ่มว่า กลุ่มเบียร์ของไทยเบฟเวอเรจมีแผนที่จะทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยใช้ “เบียร์ช้าง” ในการผลักดัน และยังคงตลาดหลักที่เมียนมาร์ สิงคโปร์ และตลาดรองที่กัมพูชา ซึ่งตั้งเป้าให้เป็นผู้นำอันดับ 1 ในแต่ละกลุ่มสินค้า

นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บมจ.เสริมสุข กล่าวถึงกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ว่า ไทยเบฟเวอเรจมีสินค้าในกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ 7 กลุ่ม ซึ่งปัจจุบัน “เอส” และ “คริสตัล” ติดอันดับ 1 ใน 2 ของตลาด และในอนาคตจะมีสินค้าอื่นๆ ที่ติดอันดับ 1 ใน 2 ตามมา