BUSINESS

"พัฒน์กล" ชี้ อุตฯอาหารอาเซียนโตต่อเนื่อง เร่งเครื่องลุยส่งออก
POSTED ON 21/11/2557


 

ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอาหารและส่งออกอาหารในภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทฯ จึงมุ่งพัฒนา 4 ธุรกิจหลักรองรับ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเครื่องทำความเย็น กลุ่มธุรกิจอาหารเหลว กลุ่มธุรกิจวิศวกรรมแปรรูปอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องทำน้ำแข็ง เน้นเจาะตลาดส่งออกแถบภูมิภาคอาเซียน

 

สำหรับกลุ่มธุรกิจเครื่องทำความเย็น บริษัทฯ ถือเป็นผู้ประกอบการไทยรายใหญ่ที่สุดในแถบภูมิภาคอาเซียน ที่ทำงานด้านวิศวกรรมทั้งในด้านการผลิต ออกแบบ ติดตั้งและขายอะไหล่ อุปกรณ์ ระบบแช่อาหารห้องเย็นอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ ตู้แช่ผลิตภัณฑ์และห้องเย็นสาหรับซูเปอร์มาร์เก็ต ระบบทำความเย็นเพื่อใช้ในโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา กุ้ง ผักและผลไม้ ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยสัดส่วนการผลิตปัจจุบันตลาดในประเทศเฉลี่ย 80% และตลาดต่างประเทศอีก 20% และตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้เพิ่มขึ้นเป็น 50:50 ภายในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า

 

ส่วนกลุ่มธุรกิจอาหารเหลว บริษัท เป็นผู้ออกแบบ ผลิตและติดตั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตนม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เบียร์ และยังรวมถึงอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อาหาร ได้แก่ แชมพู ครีมนวดผม สบู่เหลว ยา เคมีภัณฑ์บางชนิด เช่น สี เป็นต้น, กลุ่มธุรกิจวิศวกรรมแปรรูปอาหาร บริษัทถือเป็นบริษัทไทยแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถออกแบบและสร้างโรงงานแปรรูปปลาทูน่ากระป๋อง และโรงงานกุ้งครบวงจร และสร้างเครื่องจักรแช่แข็งแบบต่อเนื่อง เครื่องคัดขนาดปลา กุ้ง ผลไม้ สร้างเครื่องล้างถาดสำหรับโรงงานผลิตอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อช่วยลดปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงาน และสามารถสร้างโรงงานแปรรูปอาหารที่บริษัทต่างชาติให้การยอมรับ

 

ในขณะที่กลุ่มธุรกิจเครื่องทำน้ำแข็ง บริษัทฯ คือผู้ที่บุกเบิกให้มีน้ำแข็งหลอดขึ้นในประเทศไทย และเป็นผู้ผลิตเครื่องทำน้ำแข็งหลอดรายแรกที่ทำให้คนไทยมีน้ำแข็งที่สะอาด ถูกสุขอนามัยไว้บริโภค ด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเป็นอันดับหนึ่งของโลก อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิต ออกแบบติดตั้ง และขายอะไหล่อุปกรณ์สำหรับเครื่องทำน้ำแข็งหลอด น้ำแข็งเกล็ด และน้ำแข็งซองมายาวนานเกือบ 50 ปี และยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปแล้ว 5 ทวีป กว่า 50 ประเทศ ทำให้บริษัทมีสัดส่วนการผลิตตลาดในประเทศอยู่ที่ประมาณ 40% และต่างประเทศประมาณ 60%

 

ทั้งนี้ ในการขยายตลาดอาเซียน บริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดสำนักงานที่ประเทศเมียนมาร์ภายในปี 2558 เพื่อรองรับการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จากก่อนหน้านี้ได้มีการตั้งสำนักงานในประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีสำนักงานตัวแทนดูแลในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และแอฟริกา อยู่แล้ว

 

นายแสงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า "พัฒน์กล ได้มีการขยายตลาดและการลงทุนเพื่อการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน โดยมีการลงทุนทั้งในด้านเครื่องจักรและบุคลากรเป็นจำนวนมาก ซึ่งในด้านบุคลากรนั้นเราต้องใช้เวลาในการฝึกคนเป็นเวลานานถึง 2-3 ปี ขณะที่ในด้านเครื่องจักร เรามีการปรับปรุงโรงงานกิ่งแก้วให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้นและจัดเป็นศูนย์กระจายสินค้า งานติดตั้ง และบริการ และจัดเป็นศูนย์ฝึกอบรม บนพื้นที่ทำงานขนาด 10,000 ตารางเมตร รวมถึงมีการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ๆ ที่โรงงานพัฒน์กลแมนนูแฟคเจอริ่ง จังหวัดเพชรบุรี อีกด้วย"

 

"เราเป็นบริษัทไทยที่มีเทคโนโลยีและและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก และมีการจดสิทธิบัตรเป็นจำนวนมาก เรามีหน่วยงานพัฒนาเทคนิคและสร้างเครื่องจักรที่ทำงานประจำตลอดเวลา ในการบุกตลาดต่างประเทศนั้นพัฒน์กลใช้โมเดลทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยนำไปขยายผลในประเทศอื่นๆ เพื่อให้มีมาตรฐานและความชำนาญ" นายแสงชัย กล่าว