BUSINESS

ทาทา เผยยอดลงทุนในไทยกว่า 3,000 ล้านบาท เร่งลุยขยายตลาดเพิ่ม
POSTED ON 16/10/2557


 

ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในงานประชุมผู้จำหน่าย ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ว่า ในปี 2014 บริษัทฯ มีผลประกอบการกว่า 103,270 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.2 ล้านล้านบาท) ส่วนทาทา มอเตอร์ส จำกัด มีผลประกอบการสูงถึง 38,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.2 ล้านล้านบาท) คิดเป็นเกือบร้อยละ 40 ของ ทาทา กรุ๊ป ซึ่งชี้ให้เห็นได้ว่า ทาทา มอเตอร์ส มีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง ซึ่งในปีหน้าจะเป็นปีที่ ทาทา มอเตอร์ส ครบรอบ 70 ปี หลังจากก่อตั้งขึ้นในปี 1945 (พ.ศ.2488)

 

เมื่อช่วงต้นปี ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้มีการลงทุนเพิ่มประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาในส่วนต่างๆ ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต การสต็อกชิ้นส่วน การขยายเครือข่าย และการให้บริการหลังการขาย ทำให้ปัจจุบันมียอดการลงทุนสะสมในประเทศไทยเกือบ 3,000 ล้านบาท

 

สำหรับกระบะรุ่นใหม่ที่จะออกมาในปลายปีนี้ คือ กระบะ ทาทา ซีนอน รีเฟรช (Tata Xenon Refresh) ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ ใช้ระบบเกียร์แบบใหม่ มีการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานมากขึ้น ทั้งในส่วนของการตกแต่งภายนอก และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายใน เป็นได้ทั้งรถเชิงพาณิชย์และ รถใช้งานส่วนบุคคลทั่วไป ซึ่งยังคงความประหยัด ความแข็งแกร่งในสไตล์ของรถกระบะทาทาสำหรับงานบรรทุก งานสมบุกสมบันได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในผู้นำรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งทาทาฯ มีกลุ่มของกระบะเพื่อการพาณิชย์หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน

 

นอกจากกระบะ ทาทา ซีนอน รีเฟรช แล้ว ในตลาดรถบรรทุกใหญ่ ทาทาฯ ยังเตรียมนำเสนอ ทาทา พริมา (TATA PRIMA) รถหัวลากของทาทา โดยอันดับแรกจะเป็นหัวลากพริมา แบบ 6 ล้อ (4x2) จากทาทา และ หัวลากแบบ 10 ล้อ (6x4) จาก แดวู (DAEWOO) หลังจากที่ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย เคยนำเสนอ ทาทา โนวัส (TATA NOVUS) ที่เป็นรถหัวลากรุ่นแรกที่ทาทาฯ นำมาเปิดตัวและจำหน่ายในเมืองไทยเมื่อต้นปี 2556 แต่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น "แดวู โนวัส" (DAEWOO NOVUS) เพื่อต้องการให้ทราบถึงที่มาของรถหัวลาก เนื่องจากแดวู โนวัส เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ดูซานนำเข้าจากโรงงานทาทา แดวู ในเกาหลีใต้ ขณะที่ ทาทา พริมา เป็นหัวลากจากโรงงานทาทาฯ ในอินเดีย

 

"นอกเหนือจากการขยายเครือข่าย เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการกับลูกค้าของเราแล้ว เรากำลังปรับปรุงและพัฒนาให้ระบบการบริการหลังการขายมีความฉับไวมากยิ่งขึ้น รวมถึงการสต็อกอะไหล่ให้มากขึ้น การสั่งอะไหล่ที่มีความรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถนำรถเข้ามารับบริการและมีรถกลับไปใช้งานได้อย่างเร็วขึ้น รวมไปถึงการปรับภาพลักษณ์ของทั้งผลิตภัณฑ์และองค์กรให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย" นายซานเจย์ กล่าว