ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (CPanel) ผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป (พรีแคส) ว่า ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายราย เริ่มนำระบบดังกล่าวมาดำเนินการเอง หรือบางรายอาจมีการจ้างรายอื่นผลิตผนังสำเร็จรูปให้ เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง แต่ที่ผ่านมาระบบดังกล่าวยังมีข้อจำกัด คือ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนแบบให้ลูกค้าได้

จากข้อจำกัดดังกล่าว จึงเห็นว่าควรมีการดำเนินการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าพรีแคสได้สะดวกและสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมาจะถูกจำกัดในกลุ่มระดับบน (พรีเมียม) เท่านั้น จึงแยกตัวจากการบริหารงานในบริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP ด้วยการก่อตั้ง บริษัท ซีแพนเนล จำกัด ขึ้นมาเป็นบริษัทส่วนตัว เพื่อนำเทคโนโลยีในการผลิตพรีแคสระดับสูงจากเยอรมนีเข้ามา พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete Wall Panel) ภายใต้แบรนด์ “CPanel” โดยเป็นผลิตภัณฑ์ผนังคอนกรีตที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงสุดในไทยในขณะนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด สำหรับงานก่อสร้างทุกประเภท ทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย โรงงานอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน

โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นระบบ Automate Design รายแรกในไทย จากที่ผู้ประกอบการรายอื่นจะใช้ระบบ Manual มาใช้ ซึ่งสามารถผลิตได้หลังต่อหลัง และสามารถรับลูกค้าได้ไม่จำกัด เริ่มต้นที่พื้นที่ใช้สอย 110 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาโครงสร้างจะอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 บาทต่อตารางเมตร (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอย) ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ ทั้งนี้ ราคาถือว่าไม่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น แต่สามารถผลิตได้เร็วกว่าระบบอื่นถึง 70% โดยผลิตภัณฑ์ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป CPanel จะมี 2 รูปแบบหลัก คือ ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป และแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป

ทั้งนี้ ในช่วงแรกของการทำตลาด บริษัทฯ จะเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท และกลุ่มลูกค้าทั่วไป เนื่องจากมีแนวโน้มความต้องการใช้งานผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตผนังคอนกรีตสำเร็จรูปในเชิงพาณิชย์ประมาณ 430,000 ตารางเมตรต่อปี และจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 860,000 ตารางเมตรต่อปี ภายในปี 2558 ถือเป็นกำลังการผลิตสูงสุดของบริษัทฯ เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอสำหรับรองรับความต้องการใช้งานของกลุ่มลูกค้า มีโรงงานอยู่ที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2558 ไว้ที่ 300-400 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 30% ต่อปี

“ตลาดวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ในปัจจุบันปัญหาที่วงการก่อสร้างต้องเผชิญอยู่ คือ ปัญหาด้านการบริหารจัดการต้นทุน ทั้งในด้านการขาดแคลนแรงงาน เวลา รวมถึงปัญหาการกำหนด spec ของวัสดุ ตลอดจนการจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทเกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป CPanel ขึ้น เพื่อช่วยลดและแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเป็นวัสดุที่เน้นติดตั้งง่าย รวดเร็ว ประหยัดเวลา ลดความซับซ้อน และการพึ่งพาฝีมือแรงงาน” นายชาคริต กล่าว