BUSINESS

CPF คาด ยอดขาย 5 ปีข้างหน้า แตะ 8 แสนล้านบาท
POSTED ON 03/10/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งสร้างเครือข่ายธุรกิจทั่วโลกเพื่อเชื่อมศักยภาพตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เข้ากับจีนตอนใต้และอินเดียตะวันออก รวมทั้งเจาะตลาดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยขณะนี้สนใจการซื้อกิจการในสหรัฐอีก 1 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหารและการตลาด อีกทั้งมีบริษัทในรัสเซีย ยุโรปที่น่าสนใจ ต้องเลือกบริษัทที่ดีและผู้บริหารดี ขณะนี้พิจารณา 3-4 บริษัท คาดว่าในต้นปีหน้าอาจจะมีการประกาศได้ 1 ดีล อาจจะเป็นยุโรปหรือรัสเซีย

 

การลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพทั้งในและนอกอาเซียน การเข้าสู่ธุรกิจปลายน้ำอาหารมนุษย์ ค้าปลีก ร้านอาหาร และการซื้อธุรกิจ เพื่อต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเดินสู่เป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10% จากฐานปัจจุบัน ซึ่งใน 5 ปีข้างหน้ายอดขายของซีพีเอฟน่าจะเติบโตเกือบ 2 เท่า หรือประมาณ 8 แสนล้านบาท

 

สำหรับประเทศในอาเซียน CPF ลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนแล้ว 6 ประเทศ คือ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว และกัมพูชา ซึ่งในแต่ละประเทศมีธุรกิจแตกต่างกัน เช่น ในเวียดนาม เป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด มีประชากร 90 ล้านคน ซึ่ง CPF มีลงทุนเต็มรูปแบบเหมือนการทำธุรกิจในประเทศไทย ส่วนฟิลิปปินส์ที่ประชากรกว่า 100 ล้านคน จะเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ซึ่ง CPF ใช้เงินลงทุนไปแล้วเกือบ 8,000 ล้านบาท ในการสร้างธุรกิจอาหารสัตว์บก อาหารสัตว์น้ำ หมู ไก่เนื้อ กุ้ง ปลา แต่ยังไม่มีอาหารสำเร็จรูปและร้านอาหาร

 

ขณะที่มาเลเซียกำลังซื้อ 20 กว่าล้านคน ตลาดไม่ใหญ่ แต่บริษัทฯ สร้างฐานไว้นานแล้วทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ ส่วนในลาวและกัมพูชา บริษัทฯ ลงทุนทำธุรกิจสัตว์บก เช่น อาหารสัตว์บก เลี้ยงสุกร ไก่ ส่วนสิงคโปร์บริษัทฯ ไม่มีลงทุน แต่เป็นฐานการค้าขาย สำหรับในอินโดนีเซีย และเมียนมาร์ เป็นการลงทุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ส่วนบรูไน ไม่มีการลงทุนเพราะเป็นมีขนาดเล็ก

 

สำหรับประเทศนอกอาเซียนที่ CPF ใส่เงินลงทุนไปเยอะคือ จีน อินเดีย รัสเซีย และตุรกี ส่วนที่เบลเบลเยี่ยม บริษัทฯ ไปซื้อธุรกิจอาหารท็อปฟู้ดส์ ตอนนี้ดูการลงทุนธุรกิจในสหรัฐฯ สหภาพยุโรป เป็นโอกาสที่เราจะไปต่อยอดในธุรกิจอาหาร มีบริษัทที่น่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทฯ มากกว่าการลงทุนในประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 60% ของการลงทุนทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งมีการลงทุนเฉลี่ย 7-8 หมื่นล้านบาทต่อปี

 

นอกจากนี้ CPF ยังได้เข้าไปลงทุนในประเทศใหม่ๆ ในแอฟริกา ที่มีประชากร 1 พันล้านคน เนื่องจากบริษัทฯ ทำธุรกิจอาหารจึงต้องพิจารณาจำนวนอยู่ประชากรเป็นหลัก ซึ่งแอฟริกาเป็นตลาดใหญ่แต่เราเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ เพื่อศึกษาตลาดและสร้างความมั่นคงทางธุรกิจในอนาคต โดยตอนนี้เริ่มที่แทนซาเนีย ด้วยธุรกิจอาหารสัตว์และเลี้ยงไก่ เพื่อสร้างธุรกิจต้นแบบขึ้นมาก่อนแล้วค่อยขยายในอนาคต

 

ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายของ CPF เติบโต 13% กำไร 5.5-5.6 พันล้านบาท โตกว่า 100% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ CPF ตั้งเป้าเติบโตอย่างน้อย 10% หรือประมาณ 4.3-4.5 แสนล้านบาทในปีนี้ และคาดว่ากำไรครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยรายได้ของบริษัทฯ มาจากการลงทุนต่างประเทศ 58% ใน 13 ประเทศ โดยมีการผลิตเพื่อขายภายในประเทศ 36% ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกจากไทยเพียง 6% ไปยัง 20 ประเทศ และในอีก 5 ปีข้างหน้า รายได้ลงทุนจากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 70%