BUSINESS

อมตะ ชี้ นิคมฯ เริ่มฟื้น แนะรัฐส่งเสริมต่างชาติลงทุนไทย
POSTED ON 01/10/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนของนิคมฯ อมตะในช่วงไตรมาสที่ 3 เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักลงทุนจากทั้งประเทศจีนและญี่ปุ่น เข้ามาติดต่อเพื่อเจรจาซื้อขายที่ดิน โดยสาเหตุน่าจะมาจากความชัดเจนในนโยบายด้านการลงทุนของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการเร่งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการสร้างผู้ประกอบการไทยให้เข้มแข็ง มีความพร้อมรองรับกับการแข่งขันเมื่อเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558

 

"ภาพรวมการลงทุนในนิคมฯ อมตะ จะเห็นได้ว่าเริ่มมีทิศทางที่สดใสมากขึ้น เห็นได้จากนักลงทุนกลับเข้ามาเจรจาซื้อขายที่ดินในนิคมฯ ต่อเนื่อง แต่หากมองยอดขายที่ดินในปีนี้ยังถือว่าน้อยมาก โดยสาเหตุที่ขายได้น้อยลงเป็นเพราะในช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมา มีความไม่นิ่งของการเมืองในประเทศ ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศชะลอการลงทุนไว้ก่อน แต่มองว่าจะมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 เป็นต้นไป และคาดว่าปลายปีนี้ยอดขายที่ดินน่าจะอยู่ที่ 1,000 ไร่" นายวิบูลย์ กล่าว

 

ในปี 2558 ทุกประเทศจะเข้าสู่การเปิดประชาคมอาเซียน หรือเออีซี ซึ่งไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศในกลุ่มภูมิภาคดังกล่าวที่มีศักยภาพ มีจุดแข็งทางภูมิศาสตร์และเป็นศูนย์กลางที่น่าสนใจสำหรับการค้าการลงทุน และมองว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจอย่างเช่น จีน ซึ่งมีเม็ดเงินการลงทุนสูง ซึ่งขณะนี้จีนกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศอาเซียน โดยประเทศที่จีนให้ความสนใจและเตรียมที่จะขยายฐานการผลิตเพิ่มก็คือ ไทย เนื่องจากว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพที่พร้อมรองรับการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม วัตถุดิบ แรงงาน ตลอดจนเรื่องของวัฒนธรรมที่เข้ากับจีนได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน

 

"เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะโอกาสในปีหน้าที่จะมีการเปิดประชาคมอาเซียน มองว่ารัฐบาลควรมีนโยบายส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนตัดสินใจเข้ามาลงทุนได้ง่ายขึ้น ส่วนผู้ประกอบการควรเสริมศักยภาพในด้านต่างๆ ของตนเองให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการองค์กร การพัฒนาแรงงานฝีมือ และด้านภาษา เพื่อรับกับการเปิดเสรีทางการค้าและการติดต่อกับต่างชาติที่มากขึ้น" นายวิบูลย์ กล่าว

 

สำหรับกลุ่มประเทศที่นักลงทุนกำลังจับตามองและให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในขณะนี้ จะเป็นประเทศในแถบเอเชีย เช่น ไทย อินโดนีเซีย ลาว พม่า รวมไปถึงประเทศที่มีพรมแดนใกล้เคียงกันอย่างรัสเซียด้วย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีเม็ดเงินการลงทุนสูง และมีนโยบายที่จะขยายการลงทุนด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเพิ่มเช่นเดียวกับจีน