ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) เปิดเผยว่า RATCH และ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) (กลุ่มเชาว์สตีล) ได้บรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น

โดยบริษัทย่อยของทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นดำเนินการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน 2 แห่ง ซึ่ง RATCH ถือหุ้นในสัดส่วน 60% และกลุ่มเชาว์สตีล 40% สำหรับบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 แห่ง จะเป็นกลไกการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น โดยระยะแรกจะลงทุน 2 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 33 เมกะวัตต์ กำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2559

สำหรับการลงนามครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งในการสร้างองค์กรให้เติบโตสู่บริษัทพลังงานชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งขยายการลงทุนเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นก็เป็นเป้าหมายหนึ่งในการลงทุนของ RATCH โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นได้ตอบรับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แล้วกว่า 7,000 เมกะวัตต์

“การจับมือกับกลุ่มเชาว์สตีลที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญการทำธุรกิจในญี่ปุ่นมาก่อน จะช่วยเสริมศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของ RATCH ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ประกอบกับการมีเป้าหมายที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนเช่นเดียวกัน จึงทำให้การร่วมทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จด้วยดี โดย 2 โครงการแรกที่จะลงทุนร่วมกัน มีกำลังการผลิตตามสัญญารวม 33 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ในปี 2559 RATCH เชื่อมั่นว่าพันธมิตรทางธุรกิจของทั้ง 2 ฝ่ายจะสานต่อและขยายความร่วมมือโครงการอื่นๆ ในระยะที่ 2 ได้” นายพงษ์ดิษฐ กล่าว     

ด้าน นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเชาว์ สตีล กล่าวว่า ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการขยายฐานธุรกิจพลังงานทดแทนเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและเอื้อต่อการลงทุน เนื่องจากนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทนของรัฐบาลญี่ปุ่น ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนของผู้ประกอบการจากทั่วโลก จึงเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่การเสริมศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของทั้ง 2 ฝ่าย ให้สามารถก้าวสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะลงทุนร่วมกันในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อูเอดะ จังหวัดนากาโน่ และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวากิ จังหวัดฟูกูชิมะ โครงการแรกมีกำลังการผลิตตามสัญญา 10.8 เมกะวัตต์ และ 22.6 เมกะวัตต์ ตามลำดับ ทั้ง 2 โครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี กับผู้รับซื้อไฟฟ้ารายใหญ่ของภูมิภาค และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นในการรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ FIT (Feed-in tariff) ที่อัตรา 40 เยนต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีการบริโภค)