BUSINESS

BJC เผย ต้นทุนผลิตสูงขึ้น 10% แต่ยังไม่ปรับราคาสินค้า
POSTED ON 15/09/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4 มองว่าภาพรวมของเศรษฐกิจน่าจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งในขณะนี้ก็มีสัญญาณของกำลังซื้อผู้บริโภคที่เริ่มกลับมา เนื่องจากมีงบประมาณที่ลงไปสู่ระบบมากขึ้น

 

ขณะที่นโยบายด้านเศรษฐกิจที่ออกมา มองว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เพราะเศรษฐกิจจะสามารถเติบโตได้ย่อมเกิดมาจากความเชื่อมั่นที่ดี โดยในส่วนของบริษัทก็นับว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเวชภัณฑ์ที่มียอดขายดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา หรือเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคในช่วง 4 เดือนสุดท้ายก็นับว่าเป็นฤดูกาลขายอยู่แล้ว จึงคาดการณ์ว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาแน่นอน

 

“นับตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.2557 แม้ว่าภาพรวมธุรกิจของบริษัทจะเริ่มมียอดขายที่ดีขึ้น แต่คงต้องรอประเมินสถานการณ์ทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อปรับเป้าหมายการเติบโตของยอดขาย จากเป้าเดิมตลอดทั้งปีที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตได้ที่ 20% ซึ่งที่ผ่านมาผลการดำเนินงานก็ต่ำกว่าเป้าหมายไปแล้ว บริษัทจะพยายามประคับประคองธุรกิจให้ดีที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้” นายอัศวิน กล่าว

 

สำหรับต้นทุนในการผลิตของบริษัทฯ ต้องยอมรับว่าเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 10% ซึ่งบริษัทฯ ก็ต้องใช้วัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล มันสำปะหลัง โดยวัตถุดิบเหล่านี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดโลก แต่บริษัทฯ ก็พยายามประคองราคาไว้และยังไม่มีแผนที่จะปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง ซึ่งบริษัทฯ ค่อนข้างมีโรงงานการผลิตอยู่หลายแห่ง จึงทำให้สามารถเลือกใช้ได้ รวมถึงยังได้ทำการลดต้นทุนด้านอื่นทดแทนอีกทางหนึ่งด้วย

 

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังได้เตรียมดำเนินการบริหารเรื่องของแบรนด์สินค้าให้มีความกระชับมากขึ้น โดยจะมีการปรับลดแบรนด์ที่ไม่สร้างยอดขายออกไป เพื่อที่จะสามารถโฟกัสการทำตลาดของแบรนด์สินค้า รวมถึงการสร้างแบรนด์ได้ง่ายขึ้นกว่าที่ผ่านมา 

 

ล่าสุด บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท บีเจซี คอมเมิร์ซ จำกัด เพื่อเตรียมเปิดช่องทางในการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ โดยจะเป็นการให้บริการจำหน่ายสินค้าประเภทหนังสือ เครื่องสำอาง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือไลฟ์สไตล์โปรดักซ์ต่างๆ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งได้ทีมงานเป็นคนรุ่นใหม่จากพันทิปดอทคอมมาคอยควบคุม โดยมองว่าช่องทางดังกล่าวเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ เพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค จากเดิมที่จะซื้อสินค้าในร้านค้าทั่วไป แต่ในตอนนี้หันมาใช้จ่ายในช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น

 

ก่อนหน้านี้ นางสาวเมทินี อิสรจินดา รองผู้อำนวยการ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมส่งทีมรีเทลเข้าไปศึกษาแผนการลงทุนสำหรับธุรกิจกิจการศูนย์ค้าส่งสินค้า METRO Cash & Carry Vietnam Limited (METRO Vietnam) ในเวียดนาม โดยคาดว่าจะใช้เวลาจากนี้จนถึงครึ่งปีแรกของปี 2558 ในการวางแผนเปลี่ยนชื่อแบรนด์ "เมโทร" เป็นแบรนด์ใหม่ โดยนโยบายที่มุ่งโฟกัสในช่วงแรกคือ การทำให้เมโทรกลับมามีกำไร คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี จากปัจจุบันที่อยู่ในภาวะขาดทุนเกือบ 400 ล้านบาท