BUSINESS

Unilever เดินหน้าขยายตลาดในอาเซียน
POSTED ON 03/09/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นางสุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยถึงแผนการขยายตลาดของยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค (Unilever Network) ซึ่งเป็นธุรกิจเครือข่าย ให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศอาเซียนภายในปี 2563 ว่า ปัจจุบันธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ได้ขยายไปแล้วทั้งในมาเลเซีย กัมพูชา และลาวแล้ว ขณะที่ในไทยนั้น มีฐานสมาชิก ทั้งสมาชิกอภิสิทธิ์และผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คประมาณ 500,000 รหัส และต่างประเทศอีก 30,000 รหัส

 

โดยในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ได้เปิดตัวฐานธุรกิจเครือข่ายแห่งใหม่ที่สิงคโปร์ ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจเครือข่ายในต่างประเทศนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและจำหน่ายครบทุกประเภทหรือครบทุกไลน์ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือสกินแคร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ล่าสุดกับผลิตภัณฑ์ใหม่ “บียอนด์ มากิ พลัส” (Beyonde Maqui Plus+) ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากทั้งในมาเลเซีย และกัมพูชา

 

นายมนต์ชัย เดโชจรัสศรี กรรมการผู้อำนวยการ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ประเทศไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง 2557 ว่า จากสัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว เห็นได้จากการลงทุนในตลาดหุ้น หรือสภาวะทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลาย บริษัทจึงคาดว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง 2557 นี้จะดีและเติบโตกว่าในครึ่งปีแรก 2557 อย่างแน่นอน

 

ทั้งนี้ คาดว่าในครึ่งปีหลัง 2557 จะมีสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เพิ่มขึ้นอีก 15% เมื่อเทียบกับอัตราสมาชิกใหม่ของครึ่งปีแรก 2557 โดยบริษัทฯ ได้วางแผนกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2557 ด้วยการบุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กำลังมาแรง มีการเติบโตถึง 20% สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดน้ำ เพื่อเสริมศักยภาพผลิตภัณฑ์บียอนด์ มากิ พลัส ด้วยการเปิดช่องทางส่งเสริมธุรกิจในรูปแบบ “สต๊อกกิสท์” (Stockist) เพื่อช่วยผู้ร่วมธุรกิจในการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นจุดกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคครอบคลุมทุกพื้นที่ เพิ่มปันผลจูงใจสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจ และทุ่มงบการตลาดอย่างต่อเนื่องในสื่อดิจิตอล

 

สำหรับแนวโน้มของผู้บริโภคในปี 2558 ยังคงมองว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มากนัก ทั้งกำลังซื้อที่ยังคงยึดหัวเมืองเป็นหลัก และจำนวนประชากรของคนสูงอายุเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้คนหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ในขณะที่ความสวยความงาม ในเรื่องของการดูแลตัวเองเพื่อสร้างความมั่นใจยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงยังคงพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ และยังรุกตลาดสุขภาพอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อต่างๆ เพื่อความชัดเจนถึง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเพอร์ซันนอลแคร์ โดยจะเป็นสินค้าระดับบนหรือพรีเมียมภายใต้ชื่อ “อาวียองซ์” (aviance) มีสัดส่วน 70%, กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อ “บียอนด์” (Beyonde) มีสัดส่วน 20% ส่วนอีก 10% สัดส่วนที่เหลืออีก 10% ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากภายใต้ชื่อ “ไอ-เฟรช” (i-fresh) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนภายใต้ชื่อ “ลีเวอร์ โฮม” (Lever Home)