BUSINESS

L&E ผุดโรงงานผลิตหลอด LED คาดเสร็จปลายปีนี้
POSTED ON 12/09/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2557 ว่า บริษัทฯ จะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เพราะโดยปกติเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งจะมีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 55-60 และครึ่งปีแรกสัดส่วนรายได้อยู่ที่ร้อยละ 40-45

 

ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้มาจากงานโครงการที่มีมูลค่างานคงค้างในมือกว่า 900 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้กว่า 70% ในปี 2557 ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์แสงสว่างที่มีการเติบโตสูง ในส่วนของหลอด LED ที่ผู้บริโภคให้การยอมรับเรื่องการประหยัดพลังงานและอายุการใช้งาน ทำให้ผู้บริโภคทั้งประชาชนทั่วไป หน่วยงานองค์กร ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนเปลี่ยนมาใช้หลอด LED เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

"L&E ได้เปรียบในการมีสินค้าที่รองรับการเติบโตของตลาด เนื่องจากบริษัทฯ มีโรงงานผลิตหลอด LED ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2557 ประกอบกับเตรียมศูนย์ค้าปลีกผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดแห่งใหม่ที่ เดอะ คริสตัล ราชพฤกษ์ มูลค่าลงทุนรวม 30 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้" นายปกรณ์ กล่าว

 

นอกจากนี้ นายปกรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า "ปกติครึ่งปีหลังสัดส่วนรายได้จะอยู่ที่ร้อยละ 55 -60 ของรายได้รวมอยู่แล้ว ปีนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น จึงมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่จะเติบโตจากปีก่อนร้อยละ 15-20 ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะ Backlog ในมือมีแล้วกว่า 900 ล้านบาท รับรู้ปี 2557 กว่า 70% ส่วนที่เราตั้งใจรุกตลาดหลอด LED นับว่าดีเกินคาด เพราะหลังมีโฆษณาออกไปผู้บริโภครู้จักแบรนด์ L&E มากขึ้น รวมทั้งกระแสการตระหนักเรื่องการประหยัดพลังงานและความคุ้มค่าของอายุการใช้งาน ส่งผลให้มีการเปลี่ยนมาใช้หลอด LED อย่างมาก ผนวกกับ L&E มีข้อได้เปรียบกว่ารายอื่นๆ เพราะเรามีโรงงานผลิตหลอด LED เอง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดรวม"

 

สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2557 รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 1,188 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 1,015 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 50.1 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 40.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 23