ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคม 2557 บริษัทฯ จะมีการยื่นประมูลงานปรับปรุงโรงกลั่นที่ประเทศเมียนมาร์ จำนวน 2 โรง มูลค่าการลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปี 2557 นี้ โดยการเข้าประมูลงานดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการร่วมกับกลุ่ม ปตท.

ทั้งนี้ การยื่นประมูลงานดังกล่าว บริษัทฯ เล็งเห็นถึงการต่อยอดในการขยายธุรกิจโรงกลั่นในประเทศเมียนมาร์ต่อไปในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันประเทศเมียนมาร์ยังมีอัตราการใช้ในระดับต่ำ โดยปัจจุบันมีประชากรกว่า 50 ล้านคน แต่มีความต้องการใช้เพียง 70,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่มีประชากรมากกว่า 60 ล้านคน แต่มีความต้องการใช้ในระดับถึง 800,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท.ได้รับการเชิญชวนจากกลุ่มเปอตามินา ผู้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นรายใหญ่ที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย ให้เข้าร่วมศึกษาเพื่อขยายกำลังการผลิต โดยคาดว่าจะมีการสรุปรายชื่อพันธมิตรที่จะได้รับเลือกให้เข้าลงทุนในปลายปี 2557 นี้ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มเปอตามินามีโรงกลั่นทั้งสิ้น 6 โรง มีกำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ยังขาดอีกประมาณ 5 แสนบาร์เรลต่อวัน กลุ่มเปอตามินาจึงได้มีการชักชวนกลุ่ม ปตท. โดยบริษัทซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นของกลุ่ม ปตท. คงจะมีการเข้าร่วมศึกษาในโครงการดังกล่าวด้วย

“ปลายปี 2557 นี้คงจะมีข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการขยายกำลังการผลิตโรงกลั่นในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนอกเหนือจากกลุ่ม ปตท.แล้ว น่าจะมีกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นรายอื่นๆ เข้ามาร่วมศึกษาด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่สามารถลงรายละเอียดในเชิงลึกได้ แต่กลุ่มของเรามีความสนใจเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าว” นายวีรศักดิ์ กล่าว

สำหรับการคาดการณ์ธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 ยังคงประเมินได้ยาก เนื่องจากมีการปิดปรับปรุงโรงกลั่นในช่วงไตรมาส 3 นานกว่า 45 วัน ทั้งนี้ ในเบื้องต้นบริษัทประเมินว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรก 2557 ที่ระดับ 105 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แม้จะมีปัญหาด้านสงครามในแถบตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก แต่ในช่วงไตรมาส 4 จะได้แรงหนุนจากความต้องการใช้หรือดีมานด์ของประเทศจีน รวมไปถึงดีมานด์ของฤดูกาลที่เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว