BUSINESS

?บ้านปู? อัดงบลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ
POSTED ON 15/08/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในครึ่งปีแรกลดลง 9% อยู่ที่ 68.1 เหรียญสหรัฐต่อตัน จาก 75.1 เหรียญสหรัฐต่อตันในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง โดยราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของเหมืองในประเทศอินโดนีเซียเท่ากับ 69.6 เหรียญสหรัฐต่อตัน และในประเทศออสเตรเลียเท่ากับ 71.58 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน

 

ส่วนแนวโน้มราคาถ่านหินในช่วงครึ่งหลังปีนี้ คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นซึ่งในช่วงที่ผ่านมาน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของราคาถ่านหิน โดยเฉพาะเดือน ก.ค.2557 ที่ผ่านมา ราคาลงมาอยู่ที่ 69 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยในครึ่งปีหลังมีปัจจัยมาจากเศรษฐกิจโลกที่ปรับดีขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้ถ่านหินในโรงไฟฟ้าก็น่าจะเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ราคาถ่านหินเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ระดับ 70 เหรียญสหรัฐต่อตัน

 

นายชนินท์ กล่าวถึงผลดำเนินงานว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 (1 มกราคม 2557 – 30 มิถุนายน 2557) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 1,549 ล้านเหรียญสหรัฐ (50,447 ล้านบาท) ลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 แม้ว่ารายได้จากการขายรวมลดลง แต่ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดี

 

สำหรับการลงทุนในปีหน้านั้น จะใช้งบลงทุนประมาณ 779 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเน้นในการลงทุนต่อเนื่องในการสร้างโรงไฟฟ้าหงสา 1,878 เมกะวัตต์ รองลงมาเป็นการเป็นการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเกาเหอในจีน  1,200 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาจะได้ความชัดเจนในต้นปีหน้า และการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น คาดว่าจะได้ความชัดเจนในต้นปีหน้าเช่นกัน

 

นอกจากนี้ บ้านปู ยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการผลิตน้ำมันจากถ่านหินที่เหมืองถ่านหินในประเทศมองโกเลีย โดยในช่วงสิ้นปีนี้จะได้ผลการศึกษาเบื้องต้น และในปี 2558-2559 จะศึกษาในเรื่องของความคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ ถ้าผลศึกษามีความคุ้มค่าต่อการลงทุน ก็คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างโรงงาน 3 ปี และจะผลิตได้ในปี 2561-2562 ซึ่งในเบื้องต้นเหมืองถ่านหินในมองโกเลียมีศักยภาพในการผลิตน้ำมันได้จำนวนมาก