BUSINESS

SCG เผย ไตรมาส 2 รายได้เพิ่ม แต่กำไรหด 14%
POSTED ON 30/07/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ปี 2557 นี้ มีรายได้จากการขาย 124,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน มาจากราคาขายของธุรกิจเคมีภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนกำไรในไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท ลดลง 14% จากปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจการลงทุนและธุรกิจเคมีภัณฑ์ รวมทั้งความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างในประเทศชะลอตัวลง ทำให้ต้องเพิ่มสัดส่วนการส่งออก จึงมีต้นทุนด้านการขนส่งเพิ่มขึ้น

 

ส่วนในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 246,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน แต่มีกำไร 16,900 ล้านบาท ลดลง 10% จากปีก่อน ส่วนหนึ่งมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว ประกอบกับในปีนี้ มีการปันกำไรในบริษัทย่อยไปให้ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมมากขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนบริษัทฯ ลดลง รวมถึงความต้องการซื้อสินค้าวัสดุในประเทศชะลอตัวลง ทำให้ต้องเพิ่มสัดส่วนการส่งออก ซึ่งมีกำไรน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาสินค้าวัสดุก่อสร้างในช่วง 5 เดือนที่เหลือนี้น่าจะอยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกับปัจจุบัน ประกอบกับขณะนี้เป็นช่วงหน้าฝน ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างลดลงอยู่แล้ว

 

นายกานต์ กล่าวว่า ภายหลังการเข้ามาบริหารงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีความเชื่อมั่นกลับคืนมา ทั้งในส่วนของภาคประชาชนและธุรกิจ คาดว่าจะเห็นการลงทุนที่ขยายตัวขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของ 2557 สาเหตุที่ไตรมาสที่ 3 ยังไม่เห็นมากนัก มาจากผลกระทบปัญหาทางการเมืองตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และตั้งแต่ต้นปี 2558 เศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้นชัดเจน เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณ และโครงการต่างๆ ของภาครัฐจะทยอยเกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากทาง คสช.อนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง แต่คงยังไม่เห็นว่าความต้องการใช้ซีเมนต์ในปีนี้จะได้รับผลดีมากนัก เพราะการก่อสร้างในช่วง 1 ปี จะเป็นกระบวนการออกแบบ กว่าจะใช้ซีเมนต์ในการก่อสร้างคงอีก 12-15 เดือน ขณะที่โครงการทางหลวงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เชื่อว่าจะช่วยให้ความต้องการใช้ซีเมนต์ปรับตัวสูงขึ้น

 

"เอสซีจีเชื่อมั่นว่าในระยะยาวเศรษฐกิจของไทยและอาเซียนจะมีความแข็งแกร่งและเติบโตขึ้น จึงขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเอสซีจียังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนลงทุน 5 ปี ที่ยังคงใช้เงินลงทุน 250,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2557 นี้คาดว่าบริษัทจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกปีนี้ใช้ไปแล้ว 22,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือก็จะใช้ในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนในภูมิภาคจะเกิน 50% ปัจจุบันเอสซีจีมีการลงทุนโครงการซีเมนต์ในหลายประเทศ" นายกานต์ กล่าว

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 2/2557 จำนวนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท อายุ 4 ปี โดยเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้จะนำไปไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอน 5,000 ล้านบาท และอีก 5,000 ล้านบาท จะใช้สำหรับรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นต่อไป