BUSINESS

UAC เร่งโครงการร่วมทุน ลุยผลิตไบโอดีเซลเพิ่มเป็น 8.1 แสนลิตรต่อวัน
POSTED ON 10/06/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายชัชพล ประสพโชค รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย การตลาด และปฏิบัติการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าในอุตสาหกรรมพลังงาน เปิดเผยถึงแผนความคืบหน้าส่วนขยายโครงการบางจากไบโอฟูเอล (BBF) ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทฯ ที่ถือหุ้นอยู่ 30% และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ว่า ขณะนี้ BBF อยู่ระหว่างขั้นตอนการสรรหาผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมิถุนายน 2557 นี้ จะมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมผลิตในเชิงพาณิชย์ภายในปี2558 เป็นต้นไป ซึ่งก็จะส่งผลให้ BBF มีกำลังการผลิตไบโอดีเซล เพิ่มเป็น 8.1 แสนลิตรต่อวัน จากปัจจุบัน อยู่ที่ 3.6 แสนลิตรต่อวัน

 

แผนการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับการรองรับความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซล หลังจากที่ล่าสุดกรมธุรกิจพลังงานได้มีการปรับเพิ่มส่วนไบโอดีเซล(B100)ในน้ำมันดีเซล (B7) เป็น 7% จาก 3.5% ในปัจจุบัน ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อบริษัทฯ

 

ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์นั้น รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย การตลาด และปฏิบัติการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล กล่าวว่า โครงการ CBG ทั้ง 21 แห่ง ได้ปรับมาผลิตไฟฟ้าแทนโดยมีกำลังการผลิตโรงละ 1.5 MW จะเสร็จตามกำหนดที่วางไว้ภายในปี 2558 โดยแบ่งเป็น ภาคเหนือ 10 แห่ง และอีสาน 11 แห่ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้ก่อสร้างในภาคเหนือไปแล้ว 4 แห่ง ส่วนในภาคอีสานก่อสร้างไปแล้ว 2 แห่ง โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2558 เป็นต้นไป

 

สำหรับโครงการโซล่าร์รูฟ 3 โครงการ กำลังผลิตรวม 1.3 MW ก็เดินหน้าตามแผนงานจะ COD 2 โครงการแรกภายในเดือนกรกฎาคม 2557 นี้ และอีก 1 โครงการภายในเดือนตุลาคมปีนี้ ดังนั้น ในปี 2558 บริษัทฯ จะมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 30 MW

 

โดยในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงประมาณการรายได้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจพลังงานทางเลือก ประมาณ 20% ของรายได้รวม เปรียบเทียบกับปี 2556 ที่บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนไม่มาก ขณะเดียวกันเชื่อว่าในปี 2558 สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานจะมากกว่า 50% ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการให้มีสัดส่วนรายได้จากพลังงานทางเลือก 50% และจากธุรกิจซื้อมาขายไปกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ ประมาณ 50% เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากทางใดทางหนึ่งมากเกินไป

 

นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ 2-3 ราย รวมถึงเจรจาเข้าซื้อกิจการธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ตามแผนนโยบายของบริษัทฯ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในปีนี้ อย่างน้อย 1 โครงการ