BUSINESS

บาฟส์ เล็งลงทุนคลังน้ำมันเฟส 2 หากชวดท่อน้ำมันเหนือ-อีสาน
POSTED ON 10/06/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บาฟส์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด หรือ เอฟพีที เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้วางแผนการลงทุนในช่วงปีนี้ไว้ 2 แนวทาง คือ กรณีแรก บริษัทฯ มีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลก่อสร้างท่อขนส่งน้ำมันส่วนขยายภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของกระทรวงพลังงานที่อยู่ระหว่างศึกษา คาดจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2557 นี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้เจรจาเพื่อซื้อที่ดินจำนวน 100 ไร่ ในภาคเหนือ เพื่อรองรับการก่อสร้างคลังเก็บน้ำมันจำนวน 4 ถัง มูลค่าลงทุนรวม 360 ล้านบาท สามารถเก็บน้ำมันได้รวม 120 ล้านลิตร ที่คาดว่ากระทรวงพลังงานจะเปิดโอกาสให้เอกชนยื่นประมูลได้ภายในปีนี้

 

แต่หากแนวการก่อสร้างท่อดังกล่าวเป็นคนละเส้นทางกับของทางเอฟพีทีที่ศึกษาไว้ บริษัทฯ ก็จะไม่เข้าร่วมประมูล แต่จะหันมาขยายลงทุนคลังเก็บน้ำมันเพื่อบริการให้เอกชนเช่นเก็บน้ำมันเพิ่มขึ้น ในพื้นที่คลังเก็บน้ำมันในพื้นที่ดอนเมืองเฟส 2 จำนวน 4 ถัง ขนาดถังละ 10 ล้านลิตร คาดว่าจะมีความชัดเจนสำหรับแผนลงทุนดังกล่าวภายในปีนี้

 

อย่างไรก็ตาม หากจะลงทุนคลังเก็บน้ำมันเฟส 2 อีกจำนวน 4 ถังนี้จำเป็นต้องรอดูความชัดเจนก่อนว่า หากบริษัทฯ สามารถเข้าร่วมประมูลได้และชนะการประมูล ก็ไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนขยายคลังดอนเมืองในเฟส 2 แต่หากไม่ได้เข้าร่วมประมูลก็จะหันมาขยายการลงทุนขยายคลังเก็บน้ำมันเพื่อให้เอกชนเช่าเพิ่มขึ้นแทน

 

โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ลงทุนสร้างคลังเก็บน้ำมันดีเซลจำนวน 3 ถังที่ดอนเมือง ขนาดถังละ 10 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นมาไปก่อนหน้านี้แล้ว และจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายน 2558 มูลค่าลงทุน 230 ล้านบาท ขณะนี้มีผู้ค้าน้ำมันเซ็นสัญญาเช่าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการเช่าถังเพิ่มขึ้นอีก 40 ล้านบาทต่อปี

 

สำหรับเป้ารายได้รวมปี 2557 คาดว่าจะเติบโตกว่า 10% ตามการเติบโตของปริมาณการให้บริการน้ำมัน โดยคาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเครื่องบินปีนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านลิตร หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ 4.5% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง ส่งผลให้ปริมาณการเติมน้ำมันลดลง

 

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินต่างๆ ยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยังมีการเติบโตจากบริษัทลูก ทั้งค่าเช่าถังเก็บน้ำมัน และบริการส่งน้ำมันทางท่อยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้ มองว่าสถานการณ์ต่างๆ เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นๆ เท่านั้น เชื่อว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ และมีการเติบโตที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง

 

ส่วนผลการศึกษาโครงการลงทุนท่อน้ำมันสายเหนือ ขณะนี้เสร็จแล้ว คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 6.5 พันล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนวางท่อน้ำมันแบ่ง 2 เฟส โดยเฟสแรกสร้างท่อต่อจากท่อเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยเชื่อมจุดที่บางปะอินไปพิษณุโลก ระยะทาง 387 กิโลเมตร สามารถรองรับการขนส่งน้ำมันได้สูงสุด 9 พันล้านลิตรต่อไป ใช้เงินลงทุน 3.5 พันล้านบาท ส่วนเฟส 2 วางท่อจากพิษณุโลกไปจังหวัดลำพูน ระยะทาง 316 กิโลเมตร สามารถขนส่งน้ำมันได้สูงสุด 5 พันล้านลิตรต่อไป ใช้งบลงทุนอีก 3 พันล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของกระทรวงพลังงานที่จะจับบาฟส์และบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด(แทปไลน์) มารวมเข้าเป็นบริษัทเดียวกันสำหรับวางท่อส่งน้ำมันเส้นเหนือและใต้ เพราะเท่ากับเป็นการถอยหลังเข้าคลอง เนื่องจากอดีตมีการส่งเสริมให้เกิดบริษัทท่อส่งน้ำมันของเอกชนหลายรายเพื่อป้องกันการผูกขาดธุรกิจ แต่หากต้องกลับมารวมกันจะเท่ากับเป็นการผูกขาดธุรกิจในที่สุด