BUSINESS

ผู้บริหาร ปตท.แย้ม เตรียมลดผู้ถือหุ้นโรงกลั่น แยกกิจการท่อก๊าซธรรมชาติ
POSTED ON 22/05/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และประธานองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) เปิดเผยว่า ข้อเสนอของคณะทำงานปฏิรูปพลังงานที่มี "นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานร่วมทำงานด้วยนั้น เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับนโยบายของ ปตท.ที่ศึกษาและอยู่ระหว่างการดำเนินการ ทั้งการลดสัดส่วนหุ้นในกิจการโรงกลั่นน้ำมันและการแยกกิจการ ท่อก๊าซธรรมชาติ

 

ทั้งนี้ โรงกลั่นฯ ที่จะลดสัดส่วนแรกๆ คือ โรงกลั่นเอสพีอาร์ซี ที่ถือหุ้นร่วมกับ "เชฟรอน" โดย "เอสพีอาร์ซี" รอเวลาที่เหมาะสมในการกระจายหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ปตท.จะลดสัดส่วนถือหุ้นลงมาจากปัจจุบันถือประมาณ 36% เช่นเดียวกับการถือในบางจากฯ ที่ถือไว้ประมาณ 27%

 

ส่วนข้อเสนอของคณะทำงานฯ ที่ให้กระทรวงการคลังลดการถือหุ้นใน ปตท.ลงเหลือไม่เกินประมาณ 50% เพื่อลดการแทรกแซง ปตท.นั้น ภาพรวมทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล ขณะที่โครงการแยกท่อก๊าซฯ ปตท.อยู่ระหว่างศึกษา โดยการคิดค่าผ่านท่อก๊าซฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ปตท.ไม่สามารถกำหนดราคาได้อย่างไร และก็พร้อมจะใช้แนวทางให้ผู้ใช้รายอื่นเข้ามาใช้บริการบนค่าบริการที่เป็นธรรม

 

“ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจการเข้าไปถือหุ้นโรงกลั่นต่างๆ ที่ผ่านมาก็ดำเนินการตามนโยบายรัฐในอดีตโรงกลั่นหลายแห่งมีปัญหาด้านการเงิน เพราะภาวะเศรษฐกิจรัฐจึงใช้กลไกของ ปตท.เข้ามาไปช่วยแก้ปัญหา มายุคนี้จะให้ ปตท.ขายหุ้น เพื่อเพิ่มภาวะการแข่งขันก็ทำได้ โดยปัจจุบันโรงกลั่นของไทยมี 6 แห่ง และหากลดสัดส่วนในบางจากฯ เอสพีอาร์ซี ปตท.ก็จะเหลือถือหุ้น 3 โรงกลั่น” นายประเสริฐ กล่าว

 

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่มีผู้ประเมินว่าอาจจะขยายตัวประมาณ 2% ในส่วนของ ปตท.ยังไม่ได้ทบทวนแผนลงทุน โดยการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศ เช่น คลังแอลเอ็นจี และโครงการท่อก๊าซฯ เส้นที่ 4 ยังคงทำตามแผน ส่วนแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของกลุ่ม ปตท. เช่น พีทีทีจีซี ร่วมทุนกับอินโดนีเซีย จีน หรือการลงทุนของ ปตท.สผ. คงไม่ทบทวนอะไร เพราะเป็นความจำเป็นต้องแสวงหาพลังงานและสร้างรายได้สร้างการเติบโตสร้าง ความมั่นคงแก่องค์กรและประเทศชาติ