ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือเบทาโกร เปิดเผยภายหลังการเปิดโรงงานแปรรูปไก่แห่งใหม่ที่ จ.พัทลุง ว่า โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิต 55,000-60,000 ตัว/วัน มูลค่าการลงทุน 600 กว่าล้านบาท ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตมากว่าหนึ่งปีแล้ว ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมในเครือเบทาโกรเพิ่มเป็นกว่า 5 แสนตัว/วัน ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้ผลิตขายเฉพาะในภาคใต้ และในอนาคตมีแผนจะผลิตส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ เพราะได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาลแล้ว

ทั้งนี้ ในปี 2557 ตั้งเป้าหมายยอดขายของเบทาโกร ภาคใต้ ไว้ที่ 8,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่มียอดขายประมาณ 6,600 ล้านบาท โดยปัจจุบันเบทาโกร ภาคใต้ มีมาร์เก็ตแชร์เพียง 12-15% ยังสามารถขยายตลาดได้อีก โดยเฉพาะในอำเภอใหญ่ๆ ยอดรวมจากตรงนี้จะได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ที่ จ.พัทลุง มีเป้าหมายทำเป็นฟู้ดคอมเพล็กซ์ ในอนาคตมีแผนสร้างโรงงานอาหารสัตว์ใหม่ เพราะโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ จ.สงขลา ผลิตได้ 24,000 ตัน/เดือน ไม่เพียงพอ มีแผนสร้างโรงฟักลูกไก่ขนาด 5 แสนตัว/สัปดาห์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเลือกพื้นที่ รวมถึงปรับปรุงฟาร์มไก่ไข่ขนาด 2 แสนตัว ที่ จ.สงขลา จะขยายให้ได้ 5-6 แสนตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบโรงเรือน จะเริ่มปรับปรุงได้ภายใน 6 เดือน ใช้งบลงทุน 240 ล้านบาท และมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตโรงเชือดจาก 260 ตัว/วัน เป็น 400 ตัว/วัน

ขณะที่โครงการฟู้ดคอมเพล็กซ์ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในขั้นตอนตัดสินใจเลือกพื้นที่ โดยปีนี้มีงบฯลงทุน 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะเฉลี่ยเท่ากันในทุกปี เหลือเพียงจังหวะโอกาสและความเหมาะสมว่าจะเริ่มลงทุนในภาคไหนก่อน นอกจากนี้มีแผนจะก่อสร้างโรงอาหารสัตว์เพิ่มที่ จ.เพชรบุรี มีกำลังผลิตอาหารสัตว์บก 48,000 ตัน/เดือน อาหารสัตว์น้ำ 4,000-5,000 ตัน/เดือน

ส่วนการลงทุนในประเทศกัมพูชานอกจากทำฟาร์มสุกรแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์ มีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 20% รวมทั้งมีแผนก่อสร้างฟาร์มสุกรในลาวด้วย

เบทาโกรพร้อมเต็มที่ สำหรับการเปิดตลาด AEC ที่กำลังจะมาถึงนี้และเชื่อว่ายังสามารถทำยอดขายภาพรวมทั้งเครือเบทาโกรในปี 2557 ได้ตามเป้าหมาย 87,000 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ กำลังการบริโภคลดลง แต่ธุรกิจอาหารของบริษัทยังประคองตัวไปได้