BUSINESS

ถ่านหินบูม "บ้านปู" เร่งหาแหล่งผลิตเพิ่ม
POSTED ON 21/03/2557


ธุรกิจอุตสาหกรรม - นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2557 บ้านปูตั้งเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายถ่านหินจากแหล่งผลิตในประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และจีน รวมประมาณ 48 ล้านตัน โดยบริษัทจะยังคงเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและระบบการขนส่ง รวมทั้งเดินหน้าลดต้นทุนการผลิตลงอย่างต่อเนื่อง ในแหล่งผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียและออสเตรเลีย

 

การที่ราคาถ่านหินจะอ่อนตัวลงในระยะสั้น แต่ภาพรวมโครงสร้างราคาถ่านหินยังมีความแข็งแกร่งในระยะยาว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เนื่องจากเศรษฐกิจของเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ราบรื่นนัก แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกไปจนถึงกลางศตวรรษนี้ การใช้ถ่านหินในประเทศจีนและอินเดียเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อตลาดถ่านหินในภูมิภาค นอกจากนี้คาดว่าการนำเข้าถ่านหินของประเทศอาเซียน เช่น เวียดนาม ไทย และฟิลิปปินส์จะสูงขึ้นอย่างมากในอีก 20 ปีข้างหน้า

 

ในอนาคตการดำเนินธุรกิจของบ้านปูจะเน้นที่ธุรกิจพลังงานถ่านหินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยบริษัท จะแสวงหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจถ่านหิน ทั้งจากแหล่งถ่านหินที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากแหล่งถ่านหินใหม่ๆ และยังคงมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องให้กับเหมืองถ่านหินของบริษัท รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและขยายการจัดการด้านโครงสร้างพื้นฐานและการขนส่ง ตลอดจนการหาช่องทางในการประสานกลยุทธ์ด้านการตลาด การขาย และการผสมถ่านหินในระดับภูมิภาค นอกจากนี้ บริษัทยังศึกษาการขยายธุรกิจจากการผลิตถ่านหินสู่การพัฒนาพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหิน การเปลี่ยนถ่านหินเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ตลอดจนการใช้ถ่านหินในการถลุงเหล็ก เป็นต้น

 

สำหรับในอนาคตบ้านปูเน้นการใช้นวัตกรรมซึ่งเป็นหนึ่งในค่านิยมร่วมองค์กร "บ้านปูสปิริต" ในการพัฒนาธุรกิจ รวมถึงแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโต จึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่ธุรกิจพลังงานถ่านหินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการศึกษาเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ ๆ อีกมากมาย ซึ่งไม่ใช่เพียงเพื่อประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาวต่ออุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่เพื่อสำรวจตลาดพลังงานใหม่ๆ ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และลดความเสี่ยงต่างๆ ทั้งนี้ ธุรกิจไฟฟ้ายังคงมีบทบาทสำคัญต่อความยั่งยืนและยุทธศาสตร์การเติบโตของบ้านปูในระยะยาว