AUTOMATION

คณะรัฐมนตรีฯ เห็นชอบพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
POSTED ON 30/12/2563


 

 

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เสนอ โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1.มาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ คณะรัฐมนตรีมีมติ (29 สิงหาคม 2560) เห็นชอบมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติซึ่งเป็นมาตรการที่ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการผลิตและการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอาเซียนโดยมีเทคโนโลยีเป็นของตนเองภายในปี 2569 ประกอบด้วย 1) มาตรการทางด้านการตลาด (Marketing) 2) มาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ออกแบบและบูรณาการระบบ (System Integrator: SI) 3) มาตรการสร้างอุปทาน (Supply) 4) มาตรการจัดตั้ง Center of Robotics Excellence (CoRE) สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และการส่งเสริมการใช้งานด้านต่าง ๆ และ 5) มาตรการด้านอื่น ๆ เช่น การสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้

2.ความคืบหน้าการดำเนินการตามมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติระหว่างปี 2561-2563 เช่น

2.1 การลงทุนด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม มีมูลค่ารวมประมาณ 1.67 แสนล้านบาท โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ทั้งนี้ สถานประกอบการเดิมมีการลงทุนปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตโดยใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ จำนวน 92 กิจการมูลค่ารวมประมาณ 13,894 ล้านบาท

2.2 การจัดตั้ง CoRE เพื่อเป็นเครือข่ายความร่วมมือของหน่วยงานชั้นนำด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของประเทศรวม 15 หน่วยงาน และรับผิดชอบด้านการพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยี โดยในปี 2562 ได้มีการพัฒนาความพร้อมของ SI และผู้ใช้งานให้มีความสามารถทางวิศวกรรมระบบ รวม 770 คน และผลักดัน Startup ที่เป็น SI 35 กิจการ นอกจากนี้ ได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SI และผู้เชี่ยวชาญร่วมกันพัฒนาต้นแบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับประยุกต์ใช้ในโรงงานรวม 85 ต้นแบบ ต่อมาในปี 2563 ได้พัฒนา SI อย่างต่อเนื่องรวม 625 คน บ่มเพาะ Startup 35 กิจการ และพัฒนาหุ่นยนต์ จำนวน 100 ต้นแบบ

2.3 การฝึกอบรมการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติให้กับแรงงานภาคอุตสาหกรรม รวม 2,612 คน และยกระดับ SI ให้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานที่ CoRE กำหนด โดยปัจจุบันมี SI ที่ขึ้นทะเบียนกับ CoRE แล้วจำนวน 68 ราย

2.4 การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อให้บริการกับผู้ประกอบการในการเข้าถึงบริการ ต่าง ๆ ของภาครัฐได้สะดวกและรวดเร็ว รวมทั้งใช้ในการบริหารจัดการเครือข่าย CoRE ในรูปแบบ Web Service ประกอบด้วย 1) ระบบการขึ้นทะเบียนและรับรองคุณสมบัติของ SI 2) ระบบลงทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม 3) ระบบการรับรองกิจการที่ขอใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 4) ระบบเพื่อการใช้สิทธิยกเว้นอากรนำเข้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และ 5) ระบบฐานข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

2.5 โครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืนในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก : เมืองนวัตกรรม ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบบอัจฉริยะ (EECi-ARIPOLIS for BCG) โดยการพัฒนาระบบนิเวศน์นวัตกรรมที่เอื้อต่อการยกระดับการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเข้าสู่ระบบการผลิตอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และดิจิทัล ทั้งในส่วนของการพัฒนาผลงานวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านระบบการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์

2.6 การร่างประกาศการยกเว้นอากรนำเข้าชิ้นส่วน อุปกรณ์หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ตามมาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SI ในประเทศ และผลักดัน SI ให้มีจำนวนเพียงพอในการรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอนาคต

2.7 การพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม Industrial Transformation Platform ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจและแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการที่ต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติอย่างครบวงจร

3. ปัญหา อุปสรรค และโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

3.1 ปัญหาและอุปสรรค ในปัจจุบันระบบอุตสาหกรรมภายในประเทศมีความต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้น แต่ยังมีการใช้งาน SI เพียงร้อยละ 10 ของมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (มูลค่ารวมประมาณ 11,519 ล้านบาท) เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจากต่างประเทศ ซึ่งมีสาเหตุที่สำคัญ ดังนี้

3.1.1 ผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องการปรับปรุงระบบที่หลากหลายโดยไม่สามารถหา SI ที่ตอบสนองความต้องการแบบเบ็ดเสร็จได้

 

3.1.2 ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต้องการใช้ระบบอัตโนมัติอย่างง่าย แต่ขาดการเชื่อมโยง SI ในภูมิภาคที่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจ SMEs ธุรกิจชุมชนและอุตสาหกรรมการเกษตรในภูมิภาค รวมทั้งมีปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์

 

3.1.3 SI ในประเทศมีขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีที่จำกัด ทำให้ไม่สามารถรับงานที่มีความซับซ้อนได้

 

3.1.4 ธนาคารพาณิชย์ขาดความรู้ในการประเมินความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ทำให้การปล่อยสินเชื่อเงินกู้เพื่อการลงทุนเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติเกิดความล่าช้า

 

3.1.5 CoRE มีปัญหาในการบริหารจัดการเนื่องจากเป็นการรวมตัวของหน่วยงานต่าง ๆ ในลักษณะเครือข่ายความร่วมมือและต้องพึ่งพางบประมาณของภาครัฐเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณจะส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาองค์กรของ CoRE และทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมขาดความต่อเนื่อง

 

3.2 โอกาสของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คาดว่า จะทำให้การผลิตและการแข่งขันของอุตสาหกรรมโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะมีการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้กันมากขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้หุ่นยนต์ในสาขาต่าง ๆ เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและภาคการบริการ จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตไทย ทั้งนี้ แผนการดำเนินการในระยะต่อไปจึงควรเน้นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคและสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการ SI ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้มากขึ้น 4. แนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในระยะต่อไป