WORLDWIDE

นักวิเคราะห์ เชื่อ ปีนี้จะเป็นขาขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
POSTED ON 03/02/2557


ข่าวต่างประเทศ - เหตุใดความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2557 จะดีที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงเมื่อ 4 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา ถึงเพิ่มมากขึ้น และเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมกองทุนสำรองแห่งรัฐหรือธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ถึงเดินหน้าแผนที่จะลดการกระตุ้นเศรษฐกิจลง

 

ความคาดหวังในทางบวกยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ที่ว่าผู้บริโภคช่วยกระตุ้นอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 รายงานดังกล่าวยังเป็นการเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจจะสามารถต้านทานความวุ่นวายในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ การลดระดับการกระตุ้นของเฟด และความเสี่ยงในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มมากขึ้นได้

 

ชาวอเมริกันที่ประสบความยากลำบากกับการตกงานและอัตราค่าจ้างที่หยุดนิ่งมาเป็นเวลานาน อาจจะไม่ถูกปลดเปลื้องในเร็ววันนี้ และในภาคส่วนอย่างเช่นการผลิต การก่อสร้าง และยอดขายที่อยู่อาศัยอาจจะยังอยู่ห่างไกลจากการฟื้นตัวกลับมาแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ภาพรวมของเศรษฐกิจทั้งหมดดูสว่างไสวขึ้นหลังจากรัฐบาลระบุว่า อัตราการเติบโตของไตรมาสสุดท้ายเมื่อปีที่แล้วสูงถึง 3.2% คิดตามอัตราปรับรายปีจากอัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งมากที่สุดในรอบ 3 ปี

 

ไดแอน สวองก์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเมซิโรว์ ไฟแนนเชียล กล่าวว่า "เศรษฐกิจแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของแรงขับเคลื่อนที่ดีอย่างจริงจังในช่วงปลายปี 2556 เราอยู่ในจุดที่ดีสำหรับอัตราการเติบโตในปี 2557 มากกว่าเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา"

 

การใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2556 เติบโตที่ 3.3% คิดตามอัตราปรับรายปี ซึ่งเป็นอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา และนับว่าเติบโตขึ้นอย่างมากจากอัตราการใช้จ่าย 2% เมื่อไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งการใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากคิดเป็นถึง 70% ของมูลค่าเศรษฐกิจโดยรวม

 

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า สำหรับปี 2556 ทั้งปีแล้ว เศรษฐกิจเติบโตที่อัตราค่อนข้างจืดชืดที่ 1.9% อ่อนแอกว่าการเติบโต 2.8% เมื่อปี 2555 ที่อัตราการเติบโตถูกฉุดรั้งไว้จากภาษีที่ปรับเพิ่มขึ้นและการตัดลดงบประมาณ รายจ่ายที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นปี 2556

 

ร่างงบประมาณที่สภาคองเกรส อนุมัติเมื่อต้นเดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมา หยุดยั้งการตัดลดงบประมาณรายจ่ายเพิ่ม เติมอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้ และจากการที่ปัจจัยถ่วงงบประมาณดังกล่าวหายไป ทำให้นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อัตราการเติบโตจะมากกว่า 3% ในปีนี้ ซึ่งนั่นจะเป็นผลงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงเมื่อกลางปี 2552

 

ความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายของผู้บริโภคเมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว มีแรงผลักดันทั้งจากการซื้อสินค้าคงทน อย่างเช่น รถยนต์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสาร และสินค้าไม่คงทน อย่างเช่น เสื้อผ้า รวมถึงการใช้จ่ายในภาคบริการยังเพิ่มมากขึ้นอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งยังมีความแข็งแกร่งจากการขาดดุลการค้าลดน้อยลงอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายในการก่อสร้างบ้านลดลง การใช้จ่ายภาครัฐลดลงที่อัตรา 4.9% เมื่อไตรมาสสุดท้าย นำโดยการใช้จ่ายที่ลดลงของรัฐบาลกลาง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปิดทำการสำนักงานของรัฐบาลกลางบางส่วนที่ไม่จำเป็น ทั่วประเทศ (กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์) เป็นเวลา 16 วัน เมื่อเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลระบุว่าการชัตดาวน์ทำให้อัตราการเติบโตในไตรมาสสุดท้ายหายไป 0.3%

 

นักลงทุนทั่วโลกเป็นกังวลว่าการถอยหลังกลับในโครงการซื้อพันธบัตรของเฟดจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น และส่งผลให้นักลงทุนโยกย้ายเงินออกจากประเทศตลาดเกิดใหม่เข้ามาลงทุนในสหรัฐอเมริกาแทน เพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า ทำให้ค่าเงินในประเทศเศรษฐกิจใหม่ร่วงลงจากความกังวลดังกล่าว

 

และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อเรื่องดังกล่าว ธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจใหม่เหล่านี้ ตั้งแต่อินเดีย ตุรกี ไปจนถึงแอฟริกาใต้ ได้มีมาตรการเคลื่อนไหวเพื่อรับมือกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการถอยกลับของเฟด และการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้น พวกเขาได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในประเทศของตน โดยหวังว่าจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ฉุดค่าเงินขึ้น และเหนี่ยวรั้งนักลงทุนไว้

 

ที่อาร์เจนตินา ดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งสูง ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของกระทรวงการคลังร่อยหรอ ค่าเงินเปโซร่วงลงอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี เป็นไปได้ที่ความสับสนอลหม่านเช่นนี้จะล้นทะลักเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา อย่างเช่น ความต้องการสินค้าสหรัฐอเมริกาอาจตกต่ำ นักลงทุนอาจจะทิ้งตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐอเมริกาด้วย

 

ทว่า นักวิเคราะห์ส่วนมากคิดว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะสามารถต้านทานความเสียหายใดๆ ก็ตามที่อาจจะแพร่กระจายมาจากต่างประเทศได้ โดยอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง 3.2% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ตามหลังอัตราการเติบโตในไตรมาสก่อนหน้าระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2556 ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านั้นคือ 4.1% คิดตามอัตราปรับรายปี ขณะที่ปีนี้นักเศรษฐศาสตร์คิดว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงฉุดจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเติบโตของจำนวนแรงงานอย่างมั่นคงจะช่วยให้ครัวเรือนมีเงินมากขึ้นและช่วยเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภค

 

นอกจากนี้ ผู้ผลิตสินค้าของสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและยอดจำหน่ายรถยนต์คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นอีกในปี 2557 นี้

 

นักวิเคราะห์จำนวนมากคิดว่า เฟดจะลดระดับการกระตุ้นเศรษฐกิจลงในการประชุมทุกครั้งในปีนี้ ไปจนถึงการยกเลิกโครงการซื้อพันธบัตรทั้งหมดโดยสิ้นเชิง โดยเฟดอ้างเหตุผลว่า เศรษฐกิจมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงความแข็งแกร่งในด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ