ข่าวต่างประเทศ - นายอาร์เซนิโอ บาลิซากัน รัฐมนตรีด้านการวางแผนเศรษฐกิจของประเทศเผยว่า ตัวเลขจีดีพีของฟิลิปปินส์เมื่อปีที่แล้วคือ 7.7% โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายของปีแม้ต้องเผชิญซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่สร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน แต่เศรษฐกิจประเทศช่วงนี้ยังเติบโตถึง 6.5%

ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในปี 2556 โตขึ้น 7.2% เติบโตมากที่สุดนับตั้งแต่ประธานาธิบดี เบนิกโน อาคีโน เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2553 จากที่รัฐบาลตั้งเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจไว้ที่ 6.0-7.0% ปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างน่าพอใจมาจากภาคการผลิต, การค้า, อสังหาริมทรัพย์และการเงิน

ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติอยู่บ่อยครั้งทั้งพายุไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด โดยเฉพาะเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่เข้าโจมตีประเทศ จนทำให้กว่า 8,000 คนเสียชีวิตหรือสูญหาย และสร้างความสูญเสียให้กับประชาชนหลายล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวนาและชาวประมงที่ยากจน นอกจากนี้ ในเดือน ต.ค.2556 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 220 คน

นายอัสโตร เดล คาสติลโล นักวิเคราะห์แห่งบริษัท เฟิร์ท เกรดไฟแนนซ์ ให้ความเห็นว่า "ตอนแรกเราคาดว่าพายุที่เกิดขึ้นในเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา จะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจลดลง แต่ที่ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะภาคอื่นของเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาคการผลิตและการบริการ ข้อมูลของทางการระบุว่า ภาคการผลิตในไตรมาสสุดท้ายของปีขยายขึ้นถึง 12.3% ส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของภาคส่งออก ส่วนภาคบริการมีตัวเลขโตขึ้น 7.0%"

ด้าน นายซีซาร์ พูริซิมา รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฟิลิปปินส์ กล่าวถึงเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาว่า "การเติบโตของเศรษฐกิจเป็นตัวเลขที่น่าพอใจเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าประเทศของเราเป็นคนป่วยที่ฟื้นจากไข้แล้ว การเติบโตทางเศรษฐกิจของเราเป็นรองแค่จีนเท่านั้น โดยภาคเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งคือการบริการและท่องเที่ยว"