WORLDWIDE

อุตสาหกรรมพลังงานลมโลกผนึกกำลังจัดประชุม Global Offshore Wind Summit ที่ไต้หวัน เมษายนนี้
POSTED ON 21/12/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

องค์กรภาครัฐและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมพลังงานลมทั่วโลก เตรียมจัดการประชุม Global Offshore Wind Summit ครั้งแรก ณ กรุงไทเป ระหว่างวันที่ 24-25 เมษายน

สภาพลังงานลมโลก (Global Wind Energy Council - GWEC) และหอการค้ายุโรปประจำไต้หวัน (European Chamber of Commerce Taiwan - ECCT) จะจัดการประชุมสุดยอดดังกล่าวขึ้นในวันที่ 25 เมษายน โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทการท่าเรือนานาชาติไต้หวัน (Taiwan International Ports Corporation) และสมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน (Chinese International Economic Cooperation Association) และได้รับการอนุมัติจากกระทรวงเศรษฐกิจ และกระทรวงการขนส่งและการสื่อสารของไต้หวัน การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้น ณ ศูนย์การประชุม Huanan Financial Holdings Conference Centre ซึ่งก่อนหน้างานหนึ่งวันจะมีการเชิญผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรอุตสาหกรรมมาร่วมอภิปรายโต๊ะกลมและรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ในวันที่ 24 เมษายน

 

ไต้หวันได้ก้าวขึ้นเป็นตลาดพลังงานลมนอกชายฝั่งที่สำคัญของทวีปเอเชีย ทั้งนี้ เป้าหมายของรัฐบาลที่จะผลิตพลังงานนอกชายฝั่งให้ได้ 5.5 กิกะวัตต์ภายในปี 2568 ประกอบกับกฎระเบียบที่ยืดหยุ่น ช่วยให้ไต้หวันประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจจากภาคอุตสาหกรรมพลังงานลมนอกชายฝั่งทั่วโลก โดยบรรดาบริษัทพัฒนาพลังงานนอกชายฝั่ง ผู้ผลิตกลุ่ม OEM และบริษัทซัพพลายเชน ต่างหลั่งไหลเข้าสู่ไต้หวัน พร้อมร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่น และช่วยสร้างไทเปให้กลายเป็นฮับของการพัฒนาพลังงานนอกชายฝั่งในภูมิภาคเอเชีย

 

อย่างไรก็ตาม กระบวนการพัฒนาดังกล่าวมาพร้อมกับความท้าทายในด้านต่าง ๆ ขณะที่รัฐบาลพยายามเดินหน้าผลักดันการยกระดับห่วงโซ่อุปทานสู่ระดับสูงสุด และได้เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (FiT)

 

นายอลาสแตร์ ดัตตัน ประธานคณะทำงาน Global Offshore Wind Taskforce ของ GWEC กล่าวว่า "ไต้หวันครองตำแหน่งผู้นำจากการที่สามารถเร่งผลักดันการพัฒนาตลาดพลังงานลมนอกชายฝั่งแห่งใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมได้อย่างแข็งแกร่ง" พร้อมกล่าวเสริมว่า "อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่รวดเร็วได้สร้างความท้าทาย แต่ขณะเดียวกัน ประสบการณ์ของไต้หวันนั้นจะสร้างบทเรียนอันล้ำค่าให้กับตลาดอื่น ๆ โดยมีแนวทางริเริ่มของไต้หวันเป็นแม่แบบ"

 

การประชุมของ GWEC และ ECCT จะช่วยแก้ไขปัญหาความท้าทายในปัจจุบัน โดยที่ประชุมจะพิจารณาประสบการณ์การพัฒนาอุตสาหกรรมนอกชายฝั่งของไต้หวันในบริบทของเวทีโลก เพื่อทบทวนบทเรียนต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้มา และความเชื่อมโยงกับตลาดพลังงานนอกชายฝั่งเกิดใหม่แห่งอื่น ๆ ตลอดจนหารือถึงแนวทางในการนำประสบการณ์และเทคโนโลยีล่าสุดจากทั่วโลกมาพัฒนาตลาดให้ก้าวหน้าต่อไป