WORLDWIDE

เยอรมนีร้อง EU ออกกฎคุมทุนจีน หวั่นเทคโนโลยีโดนดูด
POSTED ON 05/02/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

คอลัมน์เกาะกระแสโลก ของประชาชาติธุรกิจ รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ต่อกรณีที่ประเทศเยอรมนีพยายามเรียกร้องสหภาพยุโรป (EU) ออกกฎหมายควบคุมทุนจีนที่ตะลุยซื้อกิจการในยุโรป หวังให้บังคับใช้กฎหมายภายในปลายปีนี้ เพื่อปกป้องการรั่วไหลของเทคโนโลยีขั้นสูง

 

การเรียกร้องมาตรการหรือกฎหมายในการควบคุมนักลงทุนจีนในยุโรปเกิดขึ้นมาสักพัก แต่กระแสร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นับจากที่ นายพอล แฟง (Paul Fang) ประธาน Midea Group บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ KUKA บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์และระบบออโตเมชั่นในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวเยอรมัน ด้วยมูลค่าถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

รอยเตอร์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลจาก Welt am Sonntag หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเยอรมนี ซึ่งระบุถึง นายแมทเธียส มาชนิก รมช.เศรษฐกิจและพลังงาน ของเยอรมนี ที่กล่าวไว้ว่า ขณะนี้ได้พยายามเรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ออกกฎหมายอย่างเร่งด่วนเพื่อควบคุมนักธุรกิจจีน หลังเกิดกระแสการหลั่งไหลเข้ามาซื้อกิจการและลงทุนโดยตรงในประเทศยุโรปมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งเยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายหลัก ๆ ของนักลงทุนชาวจีนมานาน

 

“สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนมากในกรณีการเทกโอเวอร์อย่างต่อเนื่องของจีนในเยอรมนี และประเทศยุโรปอื่น ๆ ซึ่ง EU เป็นหนึ่งในเป้าหมายของทั่วโลกในด้านเทคโนโลยีและโนว์ฮาว แม้ว่าการควบรวมกิจการเป็นสิ่งที่ดีทั้งในแง่ของรายได้และการตลาด แต่หลายบริษัทกลับอยู่ภายใต้สถานการณ์สุ่มเสี่ยง ทั้งการบิดเบือนทางการตลาดและเงื่อนไขทางการเงินที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้” นายมาชนิกกล่าว

 

กฎหมายการควบคุมดังกล่าวไม่ได้มีเพียงเยอรมนีเท่านั้นที่เรียกร้อง แต่ประเทศฝรั่งเศสและอิตาลีก็หวังที่จะให้ EU นำข้อกฎหมายดังกล่าวมาพิจารณาในการประชุมของสมาชิกในครั้งถัดไปด้วย โดยคาดหวังว่าจะมีการประกาศใช้กฎหมายนี้ภายในปลายปีนี้

 

ทั้งนี้ งานวิจัยจากสถาบันโคโลญเพื่อการวิจัยทางเศรษฐกิจ ระบุว่า ปีที่ผ่านมามูลค่าการลงทุนของนักธุรกิจจีนในเยอรมนีเพิ่มขึ้นจาก 11,000 ล้านยูโร (ราว 4.3 แสนล้านบาท) ในปี 2016 ขึ้นเป็น 12,100 ล้านยูโร (ราว 4.7 แสนล้านบาท) และเป็นการปรับเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับ 7 ปีที่ผ่านมา ที่มีเม็ดเงินลงทุนเพียง 100 ล้านยูโร (ประมาณ 4,000 ล้านบาท) ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่า เยอรมนีเป็นประเทศที่นักลงทุนจีนเข้ามาทำธุรกิจมากที่สุดในกลุ่มสมาชิก EU และเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดด้วย

 

ล่าสุดรัฐบาลเยอรมนีเริ่มออกมาตรการห้ามขายกิจการให้กับนักธุรกิจจีนบ้างแล้ว ตัวอย่างเช่น รัฐบาลได้ระงับข้อตกลงการเทกโอเวอร์ของบริษัทจีนที่จะเข้าซื้อบริษัท Cotesa ของเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์สำคัญด้านชิ้นส่วนไฟเบอร์ให้กับแอร์บัสและโบอิ้ง และยกเลิกการอนุมัติการเข้าซื้อกิจการ Aixtron ผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปของเยอรมนี เนื่องจากเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญด้านนวัตกรรม ซึ่งอาจเกิดปัญหาเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาในภายหลังได้

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ