WORLDWIDE

ออสเตรเลีย คาด ราคาแร่เหล็กปีนี้ร่วงกว่า 20% เหตุอุปสงค์จากจีนลดลง
POSTED ON 10/01/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

สำนักงานอุตสาหกรรม นวัตกรรม ทรัพยากรวิทยาศาสตร์ และพลังงานออสเตรเลีย เผยแพร่รายงานแนวโน้มสินค้าโภคภัณฑ์ฉบับล่าสุด ระบุ ในปีนี้ราคาแร่เหล็กเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 51.50 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งลดลงถึง 20% จากปี 2560 เนื่องจากอุปทานแร่เหล็กทั่วโลกเพิ่มขึ้น ประกอบกับอุปสงค์จากจีนลดน้อยลง หลังจากกิจกรรมในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในจีนชะลอตัวลง โดยครั้งล่าสุดที่ราคาแร่เหล็กต่ำกว่าระดับ 52 ดอลลาร์นั้น เกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย.2560 ขณะที่ราคาแร่เหล็กในตลาดสปอตปัจจุบันอยู่ที่ 75 ดอลลาร์/ตัน

 

ตัวเลขประมาณการของรัฐบาลออสเตรเลียแตกต่างจากคาดการณ์ของภาคเอกชนไปมาก โดยยูบีเอสและซิตี้ คาดการณ์ว่า ราคาแร่เหล็กโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 64 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งทรงตัวจากระดับ 64.30 ดอลลาร์/ตันในปี 2560 นอกจากนี้ สำนักงานอุตสาหกรรมฯยังคาดการณ์ด้วยว่า ราคาแร่เหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล็กกล้า จะร่วงลงอีกในปี 2562 สู่ระดับเฉลี่ยที่ 49 ดอลลาร์/ตัน

 

ทั้งนี้ บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของโลกต้องการที่จะเพิ่มการส่งออกแร่เหล็ก ถึงแม้จะพยายามกระจายน้ำหนักไปยังวัตถุดิบอุตสาหกรรมอื่น ๆ ไปด้วย อาทิ ทองแดง อลูมิเนียม และถ่านหิน โดยบริษัท วาเล (Vale) ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่จากบราซิล ตั้งเป้าเพิ่มการส่งออกแร่เหล็ก 7% สู่ระดับ 390 ล้านตันในปีนี้ ขณะที่ริโอ ทินโต (Rio Tinto), บีเอชพี (BHP) และ ฟอร์เทสคิว เมทัล กรุ๊ป (Fortescue Metals Group) ซึ่งล้วนเป็นบริษัทเหมืองแร่ออสเตรเลีย ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตให้ได้อีก 170 ล้านตันในปีต่อ ๆ ไป