WORLDWIDE

สหรัฐฯปรับภาษีนำเข้าเหล็กจีนเพิ่มรอบ 2
POSTED ON 27/05/2559


ข่าวต่างประเทศ 27 พ.ค.2559 - จากการที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มการจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าต่อต้านการสึกกร่อน (CORE) จากจีน อินเดีย อิตาลี เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของสหรัฐจากการไหลทะลักของเหล็กกล้าราคาถูกจากต่างประเทศ ทางด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีน (MOC) ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการประกาศดังกล่าว โดยระบุว่า สหรัฐฯจงใจที่จะกดดันอุตสาหกรรมเหล็กของจีน ซึ่งรวมถึงเหล็กรีดเย็น และเหล็กกล้าต่อต้านการสึกกร่อน (CORE) ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อบริษัทเหล็กของจีน แต่ยังขัดขวางความร่วมมือทางการค้าระหว่างภาคเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ

 

ทั้งนี้ สำนักงานการค้าระหว่างประเทศ (ITA) กระทรวงพาณิชย์ ของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบผู้ผลิตเหล็กกล้าจาก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย อิตาลี เกาหลีใต้ และไต้หวัน ได้ส่งออกเหล็กกล้าราคาถูกเข้าทุ่มตลาดในสหรัฐฯ ซึ่งจากผลการตรวจสอบดังกล่าวส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯประกาศจัดเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด (AD) จำนวน 210% ต่อเหล็กกล้า CORE ที่นำเข้าจากจีน รวมทั้งจัดเก็บภาษีต่อต้านการอุดหนุนตลาดจำนวน 39-241%

 

นอกจากนี้ สหรัฐฯจะจัดเก็บภาษีต่อต้านการอุดหนุนตลาดจำนวน 1-92% ต่อเหล็กกล้า CORE ที่นำเข้าจากอินเดีย อิตาลี เกาหลีใต้ และไต้หวัน แต่จะได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษี AD

 

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนมีการผลิตเหล็กกล้ามากกว่า 1,000 ล้านตัน ส่งผลให้มีการส่งออกปริมาณเหล็กส่วนเกินไปยังตลาดโลก หลังจากที่การบริโภคในประเทศแตะระดับสูงสุดในปี 2013 ทำให้ผู้ผลิตเหล็กราคาถูกของจีนถูกจับตามองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเหล็กล้นตลาด ซึ่งฉุดให้ราคาเหล็กตกต่ำลง และส่งผลให้สหรัฐฯประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อเหล็กรีดเย็นของจีนกว่า 500% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาด

 

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกมาประกาศว่า จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกอบการของจีน

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics