WORLDWIDE

Signature ซื้อธุรกิจ GRSA ตั้งเป้าสู่ผู้นำรีไซเคิลอลูมิเนียมโลก
POSTED ON 05/03/2558


ข่าวต่างประเทศ - Signature Group Holdings, Inc. (OTCQX : SGRH) ประกาศว่า บริษัทเสร็จสิ้นการซื้อธุรกิจ Global Recycling and Specification Alloys (GRSA) ของบริษัท Aleris Corporation เป็นมูลค่า 525 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Signature จะดำเนินธุรกิจดังกล่าวต่อไปในชื่อ "Real Alloy"

 

Real Alloy จะกลายเป็นผู้รีไซเคิลอลูมิเนียมอิสระ โดยแปลงสภาพเศษและตะกรันอลูมิเนียมให้เป็นอลูมิเนียมคุณภาพสูงสำหรับผู้ใช้งานในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์และอากาศยาน การบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม และการก่อสร้าง ลูกค้าของบริษัทได้แก่ผู้ผลิตยานยนต์ ซัพพลายเออร์ระดับ tier one และ tier two ตลอดจนโรงงานรีดอลูมิเนียมในสหรัฐฯ แคนาดา เม็กซิโก และยุโรป โดย Real Alloy สามารถประหยัดต้นทุนอันเนื่องมาจากการผลิตในปริมาณมาก ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้นำส่วนแบ่งตลาดรีไซเคิลอลูมิเนียมอิสระในอเมริกาเหนือและยุโรป

 

เครก บูชาร์ด ซีอีโอของ Signature กล่าวว่า "เรายินดีที่การซื้อกิจการครั้งนี้เสร็จสิ้นลงด้วยดี เพราะเรามุ่งหวังที่จะก้าวเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ด้วยทีมบริหารที่มีประสบการณ์และฐานลูกค้าระดับบลูชิป" พร้อมกล่าวต่อไปว่า "ทีมบริหารชุดนี้ได้สร้างบริษัทอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม และเรายินดีต้อนรับพนักงาน 1,600 คนจากโรงงาน 24 แห่งในอเมริกาเหนือและยุโรปมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับ Signature"

 

ด้าน เทอร์รี โฮแกน รองประธานอาวุโสของ GRSA ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานของ Real Alloy โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 ขณะที่รัสเซล บาร์ รองประธานของ GRSA ประจำยุโรป จะดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารของ Real Alloy Europe มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.2558 เช่นเดียวกัน

 

การทำข้อตกลงครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำหรับ Signature ตามกลยุทธ์ของบริษัทที่จะก้าวขึ้นเป็นนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นลงทุนอย่างมั่นคงในภาคอุตสาหกรรมซึ่งประกอบไปด้วยการขนส่ง อาหาร น้ำ และพลังงาน ด้วยข้อตกลงดังกล่าว บริษัทคาดว่ารายได้ต่อปีจะเพิ่มขึ้นจากเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ เป็นประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ด้วยกระแสเงินสดอิสระที่เป็นบวก  

 

รายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างสัญญา (Innovative Deal Structure)

 

บริษัทย่อยของ Signature ได้ออกหุ้นกู้ที่มีการซื้อขายในตลาดจำนวน 305 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (B2/B3) ร่วมกับการจัดหาวงเงินกู้ยืมระยะสั้น 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Signature ได้เพิ่มการถือครองหุ้นใน Real Alloy กว่า 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปิดการซื้อและชำระค่าธรรมเนียม ตามที่ Signature ได้เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าบริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจากส่วนของผู้ถือหุ้นเพื่อการซื้อกิจการในครั้งนี้ โดย Equity Piece ขั้นสุดท้ายเป็นโครงสร้างแบบ Stapled Rights Offering

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ เพิ่มทุนจากการเสนอขายหลักทรัพย์แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นได้ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีหุ้นที่ถูกจองซื้อและหุ้นที่ถูกจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่เสนอขายรวมกว่า 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ซีอีโอของ Signature ได้แสดงความเห็นว่า "เราดีใจมากที่หุ้นของเรากว่า 80% ถูกจองซื้อในการเสนอขายเบื้องต้น นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังขอจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่ตนมีสิทธิถึงกว่า 52 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มีการจองซื้อหุ้นมากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขายถึง 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เราขอขอบคุณการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา ดังเห็นได้จากมาร์เก็ตแคปของเราที่โตขึ้นถึง 3 เท่า"

 

สำหรับ Signature ถือเป็นบริษัทโฮลดิงในอเมริกาเหนือซึ่งนำเงินไปลงทุนในธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการบริหารที่ดีและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับตลาดเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในสหรัฐ Signature มีทรัพยากรทุนที่สำคัญ และมียอดขาดทุนที่ใช้สิทธิลดภาษีได้มากกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ