ข่าวต่างประเทศ - รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนในเดือน ธ.ค.2557 ปรับตัวขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายเดือน แตะระดับ 8.536 แสนล้านเยน ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทเอกชนต้องการที่จะเพิ่มเงินลงทุน เนื่องจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคเนื่องจากมีความผันผวนนั้น ถือเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของบริษัทเอกชน

รายงานของรัฐบาล ระบุว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากอุตสาหกรรมการผลิตพุ่งขึ้น 24.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2549 สู่ระดับ 3.969 แสนล้านเยน ขณะที่ยอดสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมนอกภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 7.2% แตะที่ 4.77 แสนล้านเยน

ส่วนอุปสงค์จากต่างประเทศสำหรับเครื่องจักรญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมาตรวัดการส่งออกในอนาคตนั้น ปรับตัวลง 6.9% แตะที่ 7.973 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่ในปี 2557 นั้น ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเพิ่มขึ้น 4% แตะที่ 9.69 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นปีที 2 โดยคำสั่งซื้อเครื่องจักรจากอุตสาหกรรมการผลิต ปรับตัวขึ้น 11.3% และยอดสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมนอกภาคการผลิตขยับลง 0.8%

ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจะขยายตัว 1.5% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ปรับขึ้นเพียง 0.4%

ขณะที่ทางด้านสหพันธ์อุตสาหกรรมเครื่องจักรของจีน (CMIF) ก็ได้ออกมาเปิดเผยเช่นกันถึงข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมเครื่องจักรของจีนยังคงมีการขยายตัวในปี 2557 แต่เป็นอัตราที่ชะลอลง อันเนื่องมาจากอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซาและสต็อกสินค้าจำนวนมาก โดย CMIF ระบุว่า มูลค่าเพิ่มของภาคอุตสาหกรรมเครื่องจักรในปีที่แล้วปรับตัวขึ้น 10% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากระดับ 10.9% ในปี 2556

นายเฉิน ปิน รองประธานบริหารของ CMIF กล่าวว่า "อุตสาหกรรมเครื่องจักรซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินนั้น มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่อง เพราะยังเผชิญกับอุปสงค์ที่อ่อนแอและการแข่งขันที่รุนแรงภายในประเทศ"

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ประกอบการด้านเครื่องจักรของจีนมีรายได้รวมจากธุรกิจหลัก 22.2 ล้านล้านหยวน (3.62 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.4% จากปี 2556 ซึ่งรายได้ขยายตัว 13.8%

ที่มา : อินโฟเควสท์