ข่าวต่างประเทศ - เมอร์คิวเรีย (Mercuria) กลุ่มบริษัทพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ชั้นนำ ประกาศว่า บริษัทฯ ได้จัดจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อเพลิงสำหรับเรือเดินสมุทรกว่า 40 อัตราจาก OW Bunker บริษัทจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับเรือเดินสมุทรในเดนมาร์กซึ่งตกอยู่ในสถานะล้มละลาย

มากิด เชโนดา หัวหน้าฝ่ายการค้าของเมอร์คิวเรีย กล่าวว่า "นี่เป็นการขยายโครงสร้างการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงของเราที่กำลังไปได้ดี ทักษะของเราและความสัมพันธ์อันดีภายในแวดวงธุรกิจการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดสปอต ประกอบกับการจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถมาร่วมงานกับเรา จะทำให้เราสามารถขยายบริการแก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นคงและน่าเชื่อถือให้แก่ตลาดเชื้อเพลิงสำหรับเรือเดินสมุทรทั่วโลก ด้วยการให้บริการและความชำนาญแก่ผู้ที่ต้องพึ่งพาความรู้ในด้านพลังงาน"

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกว่า 40 ชีวิตที่เข้าร่วมงานกับเมอร์คิวเรียจะมีหน้าที่จัดหาน้ำมันเตาให้แก่ลูกค้า ซึ่งถือเป็นการขยายขอบเขตการให้บริการของเมอร์คิวเรียในฐานะผู้ค้าพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดสปอต นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้ยังช่วยให้เมอร์คิวเรียสามารถเดินหน้าพัฒนาบริษัทในเครืออย่างมิเนอร์วา (Minerva) ซึ่งเป็นการเน้นย้ำคุณภาพและการให้บริการพลังงานสำหรับเรือเดินสมุทร

เมอร์คิวเรียจะเปิดสำนักงานใหม่ในเกาหลี กรีซ และญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นสถานที่ทำงานของคณะผู้ชำนาญการกลุ่มนี้ รวมทั้งเพิ่มจำนวนบุคลากรของสำนักงานสาขาฮุสตันและเจนีวา เพื่อเติมเต็มเครือข่ายการค้าและสำนักงานผู้แทนให้ครอบคลุมทั่วโลก บุคลากรใหม่และบุคลากรดั้งเดิมของเมอร์คิวเรียจะให้บริการด้านพลังงานอย่างรวดเร็วทันใจและตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกราย

"บุคลากรของเรามีประสบการณ์ยาวนานหลายปีในด้านการบริหารจัดการเชื้อเพลิงสำหรับเรือเดินสมุทร ทุกคนจึงมีความชำนาญเป็นพิเศษในการช่วยลดความเสี่ยงด้านราคาเชื้อเพลิงสำหรับเรือเดินสมุทรและการควบคุมต้นทุนของคู่ค้า ปัจจุบันทีมงานของเมอร์คิวเรียมีความเข้าใจอย่างลึกซึ่งเรื่องความเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมันใหญ่ๆทุกแห่ง เรามีมุมมองที่กว้างไกลในระดับโลกและรู้จริงเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาดแบบเรียลไทม์ในระดับภูมิภาค" หัวหน้าฝ่ายการค้าของเมอร์คิวเรีย กล่าว

เมอร์คิวเรียเป็นกลุ่มบริษัทพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ชั้นนำ โดยในปี 2556 บริษัทฯ มีผลประกอบการ 1.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทฯ มุ่งเน้นธุรกิจด้านพลังงานเป็นหลัก และดำเนินกิจการควบคู่ไปกับห่วงโซ่คุณค่าสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ บริษัทฯ มีบุคลากรกว่า 1,000 คนในสำนักงานทั่วโลก ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทด้วยความรู้ความชำนาญ ความหลากหลาย และประสบการณ์ในตลาด อีกทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ได้เข้าซื้อธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดสปอตของเจ.พี. มอร์แกน เชส แอนด์ โค (J.P. Morgan Chase and Co.) เรียบร้อยแล้ว