VEHICLES

Symbio โชว์การขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจนที่งานแฟรงค์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ ตั้งเป้าผลิต StackPack
POSTED ON 15/09/2562


 

 

Symbio ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน จะเข้าร่วมงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ และเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมทุนกับบริษัท Faurecia ประกาศว่าการผลิตเซลล์ StackPack จะแตะที่ 200,000 หน่วยภายในปี 2030

ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ยุคใหม่ ในที่สุด ช่วงเวลาของไฮโดรเจนก็มาถึง รถยนต์หลายหมื่นคันจะออกสู่ท้องถนนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในจีน เกาหลี แคลิฟอร์เนีย และญี่ปุ่น บริษัท Symbio มุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำของตลาดที่กำลังเติบโตนี้ และได้กำหนดภาระงานที่ต้องทำให้สำเร็จเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวโดย: - ช่วยผู้ผลิตรถยนต์ลดเวลาในการพัฒนาและค่าใช้จ่ายไปกับรถยนต์ไฮโดรเจนในหลายกลุ่มตลาด (รถยนต์ รถตู้ รถเพื่อการพาณิชย์...) ในเวลาเดียวกัน แม้ว่าบริษัทเหล่านั้นจะมีอัตราความพร้อมที่แตกต่างกันก็ตาม - ส่งเสริมการเติบโตของตลาดและการทำงานเพื่อเอาชนะปัญหา "ไก่กับไข่" โดยที่ผู้ผลิตเฝ้ารอเครือข่ายสถานีให้บริการเชื้อเพลิงให้เสร็จก่อนที่พวกเขาจะผลิตยานพาหนะออกมา ในขณะที่ผู้จัดจำหน่ายเชื้อเพลิงก็จำเป็นที่ต้องรอให้เห็นความชัดเจน

200,000 StackPack ในปี 2030 ด้วยการสนับสนุนของบริษัทแม่อย่าง Michelin และการร่วมทุนกับ Faurecia บริษัท Symbio จึงกล้าแสดงความมุ่งมั่นทะเยอทะยาน ด้วยการวางเป้าหมายในการผลิต StackPack ให้ได้ถึง 20,000 หน่วยในปี 2025 และ 200,000 หน่วยในปี 2030 เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน StackPack ดีกว่าเซลล์ Stack ตรงที่ประกอบด้วยเซลล์เชื้อเพลิงจากไฮโดรเจนและส่วนประกอบที่สำคัญอื่นๆ ซึ่งทำให้ยืดอายุการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งความกะทัดรัดและความพร้อมในการบูรณาการเข้ากับยานพาหนะต่างๆ

บริษัทมีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดการของเคลื่อนที่ด้วยไฮโดรเจน เนื่องจาก

- ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเต็มรูปแบบ สร้างความมั่นใจแก่บรรดาผู้ผลิตว่า จะได้รับการตอบสนองและเข้าสู่ตลาดได้โดยเร็ว - ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับแต่งได้ ทำให้ปรับแต่งให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้ - การติดตั้งที่มีความยืดหยุ่นเป็นอย่างยิ่งและคุ้มกับค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถดำเนินการผลิตให้กับผู้ผลิตรถยนต์หลายรายได้ในเวลาเดียวกัน - ด้วยความเชี่ยวชาญที่พิสูจน์ได้แล้วในการพัฒนาการเคลื่อนที่ไปด้วยไฮโดรเจนในฝรั่งเศสและทั่วยุโรป โดยโครงการ Zero-Emission Valley ณ แคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ (Auvergne-Rhone-Alpes) และโครงการ Hydrogen Mobility Europe ถือเป็นสองตัวอย่างที่ดีเยี่ยม