VEHICLES

Mazda ตั้งเป้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในปี 2030
POSTED ON 19/10/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy

Mazda ประกาศพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติให้เป็นออฟชั่นพื้นฐานในยานยนต์ทุกรุ่นในปี 2025 และตั้งเป้าให้ยานยนต์ที่บริษัทผลิตทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 ซึ่ง Mazda มีกำหนดการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าติดตั้งเครื่องยนต์โรตารี (Rotary Engine) สำหรับปั่นไฟภายในปี 2020 เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า และยานยนต์แบบ Range Extender อีกด้วย

Mazda มีกำหนดการติดตั้งระบบเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติซึ่งพัฒนาต่อจากระบบสนับสนุนความปลอดภัย “Mazda Co-Pilot Concept” ภายในปี 2025 และสำหรับ “Mazda CONNECT” ที่ประกอบด้วยระบบนำทาง อุปกรณ์รับส่งข้อมูล และระบบจัดการภายใน จะใช้ร่วมกับ Toyota ในอนาคต ซึ่งทางบริษัทกล่าวว่าได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ร่วมกันมา 3 ปีแล้ว นอกจากนี้ Mazda ยังได้เริ่มผลิตยานยนต์โมเดลใหม่ซึ่งติดตั้งเทคโนโลยียุคถัดไปของ SkyActiv ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน และมีกำหนดเปิดตัวในงาน Los Angeles Auto Show เดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนทางด้านรถยนต์ไฟฟ้า และ Range Extender ซึ่งจะออกสู่ตลาดในปี 2020 จะทำการติดตั้งเทคโนโลยีล่าสุดของบริษัทเอาไว้ อย่างไรก็ตาม กำหนดการนี้ล่าช้าจากเดิมไป 1 ปี เนื่องจากต้องการพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีสมรรถนะมากยิ่งขึ้น ส่วนยานยนต์โมเดลที่พัฒนาร่วมกับ Toyota นั้น ยังไม่มีกำหนดการณ์จำหน่ายแต่อย่างใด

Mazda ตั้งเป้าว่าภายในปี 2030 อัตราส่วนยานยนต์ที่บริษัทผลิตขึ้น 5% จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และ Range Extender ส่วนอีก 95% จะเป็นยานยนต์ประเภทอื่น ๆ ซึ่งติดตั้งเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ทางบริษัทอยู่ระหว่างการขยายขอบเขตการพัฒนาเทคโนโลยีให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลายประเภทมากขึ้น และมีกำหนดการใช้เทคโนโลยี “Mild Hybrid System” เครื่องยนต์สันดาปภายในซึ่งติดตั้งมอเตอร์ขนาดเล็กในปี 2019 นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวรถปลั๊กอินไฮบริด (PHV) รถไฮบริดอื่น ๆ ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์โรตารีอีกด้วย

Mr. Akira Marumoto ประธานบริษัท Mazda ได้กล่าวในที่ประชุมว่า “เราจะใช้เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับเทคโนโลยีที่มีแต่เราเท่านั้นทำได้ เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถทำให้ความสุขในการขับขี่กลายเป็นความจริงได้”