Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี ประกาศ เตรียมยุติการผลิตรถยนต์บีทเทิล (Beetle) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า "โฟล์คเต่า" ในปี 2019 เป็นต้นไป โดยรถยนต์ Beetle SE และ Beetle SEL Final Edition จะเป็น 2 รุ่นสุดท้ายของ Beetle ในรูปแบบคูเป้และเปิดประทุนที่ออกมาทำตลาดในกลางปี 2019 ก่อนจะยุติการทำตลาดของชื่อ Beetle อย่างเป็นทางการ

นายฮินริช วู๊บเก้น (Hinrich Woebcken) ประธานและ CEO ของ Volkswagen Group of America เปิดเผยถึงสาเหตุในการยุติการผลิตรถยนต์บีทเทิลว่า เนื่องจากรถยนต์รุ่นดังกล่าวมียอดขายที่ลดลง ประกอบกับนโยบายหลักของโพล์คสวาเกนมุ่งเน้นที่จะพัฒนาและผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้าและรถยนต์อเนกประสงค์แบบครอบครัวมากกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการแทนที่รุ่นบีทเทิลเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับโฟล์คเต่าถือกำเนิดขึ้นมามาตั้งแต่ยุคนาซี ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกโดย ดร.เฟร์ดินันด์ ปอร์เช่ ผู้ก่อตั้งแบรนด์รถยนต์ปอร์เช่ ด้วยการสนับสนุนจาก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนีสมัยนั้น ภายใต้บริษัทรัฐวิสาหกิจชื่อ "โฟล์คสวาเกนเวิร์ค"

โฟล์คเต่า เริ่มผลิตออกจำหน่ายครั้งแรกในปี 1938 และมีการผลิตเพื่อจำหน่ายในเยอรมนีผ่านทางโรงงานต่าง ๆ ซึ่งหลังจากผลิตและจำหน่ายอยู่กว่า 2 ทศวรรษ ความนิยมก็เริ่มถดถอย ส่งผลให้ยอดขายในยุโรปลดลง และสุดท้ายก็ต้องยุติการผลิตในประเทศเยอรมนีลงในปี 1978 แต่ประเทศอื่นยังคงผลิตและจำหน่ายต่อไป

กระทั่งในปี 1998 ที่งาน Detroit Motor Show โฟล์คสวาเกนได้ปัดฝุ่นนำแนวคิดของโฟล์คเต่ากลับมาอีกครั้ง โดยปรับปรุงโฉมรวมถึงสเป็กใหม่ทั้งหมดให้กลายเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า และใช้เครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยใช้ชื่อว่า New Beetle ทำตลาดควบคู่ไปกับโฟล์คเต่ารุ่นแรกที่ยังผลิตอยู่ตามโรงงานต่าง ๆ ทั่วโลก

ต่อมาในปี 2003 โรงงานในเม็กซิโกเป็นโรงงานหลักแห่งแรกที่ถูกยุติการผลิต และมีการผลิตรุ่นสุดท้ายที่เรียกว่า Ultima Edicion ออกมาขายเพียง 3,000 คัน ขณะที่โรงงานในบราซิลซึ่งเริ่มผลิตเมื่อปี 1953 นั้น เคยยุติการผลิตไปรอบหนึ่งในปี 1986 แต่ก็กลับมาผลิตใหม่อีกครั้งในปี 1993-1996 ซึ่งยอดการผลิตโดยรวมของโฟล์คเต่ารุ่นแรกนั้นสิ้นสุดที่กว่า 21.5 ล้านคัน

สำหรับในปี 2011 หลังจากยุติการทำตลาดของ New Beetle ทางโฟล์คสวาเกนก็ได้เปิดตัวรถยนต์เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ Beetle โดยในรุ่นนี้ใช้ชื่อว่า Beetle ไม่มีคำว่า New นำหน้า ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ที่มียอดขายในปีแรกถึง 29,000 คัน และในปี 2 เพิ่มขึ้นเป็น 46,000 คัน เมื่อรวมกับรุ่น New Beetle ที่เปิดตัวในปี 1998 ยอดขายมีมากกว่า 500,000 คัน

แต่ในปี 2015 ข่าวการตรวจพบว่าโฟล์คสวาเกนได้ติดตั้งระบบ Defeat Device ในรถยนต์ของบริษัทฯ มากกว่า 11 ล้านคันทั่วโลก เพื่อหลบหลีกการตรวจวัดค่ามาตรฐานมลพิษ ได้ส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ของโฟล์คสวาเกนอย่างหนัก และจนถึงขณะนี้ยอดขายก็ยังกระเตื้องขึ้นไม่มากนัก ซึ่งบริษัทฯ ได้ชำระค่าเสียหายให้แก่รัฐบาลไปแล้วจำนวนมหาศาล แต่ก็ต้องมาต่อสู้คดีที่มีค่าเสียหายเป็นมูลสูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการยื่นอุทธรณ์จากบรรดาผู้ถือหุ้นในกรณีที่ราคาหุ้นดิ่งลงเป็นอย่างมาก