TECHNOLOGY

ประธานของสายผลิตภัณฑ์ 5G หัวเว่ย เผยเทคโนโลยี 5G จะสร้างมูลค่าใหม่ให้แก่ภาคอุตสาหกรรม
POSTED ON 08/08/2563


 

ภายในงานประชุมออนไลน์ “Better World Summit” ประจำปี พ.ศ. 2563 จัดโดยหัวเว่ย เมื่อเร็วๆ นี้ นายริทชี่ เผิง ประธานของสายผลิตภัณฑ์ 5G บริษัท หัวเว่ย กล่าวเปิดงานในหัวข้อ “5G สร้างมูลค่าใหม่แก่ภาคอุตสาหกรรม” ว่า “เทคโนโลยี 5G เป็นพื้นฐานของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในเชิงอุตสาหกรรม (Industrial Digitalization) ซึ่งเกิดขึ้นจากโครงสร้างพื้นฐานแบบเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้เกิดการแบ่งโครงข่ายแบบครบวงจร (End-to-End หรือ E2E) ทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพโครงข่ายเพื่อรองรับการนำไปประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมในรูปแบบต่างๆ ควบคู่กับการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลคอมพิวเตอร์ และแอปพลิเคชันต่างๆ ทั้งนี้ เทคโนโลยี 5G ยังช่วยภาคอุตสาหกรรมต่างๆ พัฒนาศักยภาพด้านการประหยัดพลังงาน สร้างมูลค่าและอัตราการเติบโตใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น”

นอกเหนือจากจะทำให้เกิดการผสานกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เทคโนโลยี 5G ยังขยายการเชื่อมต่อทางดิจิทัลที่มีคนเป็นศูนย์กลาง เชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ 4 รูปแบบ ได้แก่ การให้บริการโครงข่ายที่หลากหลาย: นอกจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โครงข่าย 5G ยังมอบการเชื่อมต่อที่ดีกว่าให้กับบ้านเรือนทั่วไปและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้เกิดการนำไปประยุกต์ใช้ในเชิงอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น การถ่ายทอดสด (streaming) แบบไร้สายด้วยความคมชัดระดับ HD, การสื่อสารทางไกลเพื่อการแพทย์ (telemedicine), การควบคุมทางไกล (remote control) และอุตสาหกรรมการผลิตแบบอัจฉริยะ (smart manufacturing)

ศักยภาพที่ครอบคลุม: นอกจากแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย รวมถึงการดาวน์โหลดข้อมูล โครงข่าย 5G ยังรับรองแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นสำหรับการอัปโหลด การส่งข้อมูลที่มีความหน่วงต่ำ (low-latency) และความเสถียรที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหร้บการนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งต่อยอดจากการกำหนดความแม่นยำสูงและศักยภาพใหม่ด้านอื่นๆ

เทอร์มินัลที่หลากหลาย: ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนทำงานในฐานะเทอร์มินัลหลักสำคัญสำหรับโครงข่าย 3G และ 4G เมื่อเทคโนโลยี 5G เริ่มเข้ามาเป็นจุดศูนย์กลาง จะมีอุปกรณ์หลากหลายชนิดมากขึ้นที่สามารถเข้าถึงโครงข่ายดังกล่าวได้ เช่น อุปกรณ์รับส่งสัญญาณสำหรับผู้บริโภค (CPE), กล้อง, ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ (UAVs) เป็นต้น มูลค่าการเชื่อมต่อที่มากขึ้น: นอกจากการให้ความสำคัญกับการให้คนและสิ่งต่างๆ เป็นจุดศูนย์กลาง การเชื่อมต่อ 5G จะไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์การใช้งานชั้นยอดให้แก่ผู้ใช้ แต่ยังทำให้หลากหลายอุตสาหกรรมสามารถปรับวิธีการผลิตที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานดีขึ้น ทั้งยังมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน